เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายชาแนล
เรื่องจำนำข้าว ว่า หลังจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าวให้ข้อสังเกตถึงผลการดำเนินการนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล 2 ปี ขาดทุนกว่า 4 แสนกว่าล้านบาท แต่รัฐบาลกลับปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงนั้น เป็นการใช้วิธีเดิมคือไม่ยอมรับความจริง และใช้วิธีดิสเครดิต ซึ่งขณะนี้สหรัฐอเมริกาวิเคราะห์ว่าเสียหายอย่างไร เท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อมีข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลไม่ยอมรับความจริง หลับหูหลับตา ความเสียหายจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง และขณะนี้มีความไม่จริงไปถึงเรื่องขายข้าวกับจีน ที่จนถึงวันนี้ยังสับสนว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงนั้นเป็นอย่างไร เพราะข้อตกลงจีนจะซื้อจากสมาคมข้าวฯ 1 ล้านตัน ภายในเวลา 5 ปี แต่กลับมีการพูดว่าตกลงเรื่องจีทูจี ซึ่งไม่เห็นมีข้อตกลงที่ลงนามร่วมกัน
อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ระบุว่าคุยกับนายกฯ จีน ใหม่แล้วและจะเปลี่ยนเป็นปีละ 1 ล้านตัน
ซึ่งตนเห็นว่าพูดฝ่ายเดียว เพราะทางการของจีนยังยืนยันเหมือนเดิมจะซื้อข้าวปีละ 2 แสนตัน ระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งหมด 1 ล้านตัน และไม่ได้พูดเรื่องจีทูจี รวมทั้งการลงนามของไทยกับนายกฯ จีน 6 ฉบับ ก็ไม่มีเรื่องข้าว
“ถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินนโยบายจำนำข้าว และใช้ระบบประกันรายได้ ชาวนาได้ผลประโยชน์ กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ต้องโอดครวญว่าขายข้าวถูก ขายข้าวไม่ได้ ขายข้าวขาดทุน และให้ไปร้องทุกข์กับรัฐบาลดีกว่าให้เลิกนโยบายนี้ เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ให้กระทรวงพาณิชย์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.