วัดใจ สุรยุทธ์ ใช้ พรก.ฉุกเฉิน.!

หลังจากที่ คมช.มีแนวคิดจะใช้มาตรการรุนแรงสยบความเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุมต่างๆที่ส่อเค้าขยายตัวมากขึ้น โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. เสนอให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ กทม. นั้น ล่าสุดคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้สนับสนุนข้อเสนอของ พล.อ. สนธิ

ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าหากสถานการณ์มีความจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว ในพื้นที่ที่จะมีการชุมนุม

เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (28 มี.ค.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มม็อบพีทีวีที่นัดชุมนุมกันในวันที่ 30 มี.ค. ว่า

จะใช้มาตรการทางกฎหมาย และพยายามบังคับใช้กฎหมายให้ดีที่สุด เวลานี้ต้องอยู่ที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ แต่ต้องมีการเพิ่มกำลังตำรวจมาทำงานให้ได้ผลมากที่สุด ส่วนทหารมีการเพิ่มกำลังอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามจุดต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะนำ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาใช้หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของ คมช. เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ อยากถามประชาชนว่าดีหรือไม่หากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว การเข้าพบนายกฯเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้ข้อมูลข่าวสารไปแล้ว ส่วนการพิจารณาใช้อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าได้ประเมินสถานการณ์ไว้อย่างไร จะก้าวไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า สถานการณ์จะเป็นตัวบ่งชี้ ข้อมูลข่าวสารจะเป็นส่วนประกอบการตัดสินใจ คมช.มองว่าเรื่องของความมั่นคงมีผลกระทบต่อการลงทุน เศรษฐกิจ และอีกหลายเรื่อง เรามองประเด็นเรื่องความมั่นคง หากไม่เรียบร้อยการลงทุนและการท่องเที่ยวก็คงจะลำบาก และการร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ออก เพราะคนร่างก็สับสนวุ่นวายกับสถานการณ์บ้านเมือง แต่ถ้าความมั่นคงดี อะไรก็จะตามมาหมด

"ความมั่นคงจะเป็นตัวบ่งชี้ในทุกเรื่อง ถ้าประชาชนเข้าใจถึงปัญหาตรงนี้แล้วน่าจะต้องพิจารณาดูว่าอะไรเหมาะอะไรควร อยากให้เห็นกับความสงบเรียบร้อยของประเทศมากกว่า สำหรับม็อบที่บริสุทธิ์ในอนาคตต้องจัดระเบียบการเคลื่อนตัวให้ชัดเจนมากกว่านี้ น่าจะมีหัวหน้าตัวแทนที่ชัดเจนมาพูดคุยกันจะดีกว่า เพื่อให้รัฐบาลหาทางแก้ไขได้ง่ายขึ้น" พล.อ.สนธิกล่าว

ต่อข้อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ คมช.จะตรากฎหมายขึ้นมาใหม่ให้สภานิติบัญญัติพิจารณา เพื่อปรามกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.สนธิตอบว่า ประเด็นนี้ตำรวจชี้แจงให้ฟังว่าในต่างประเทศมีกฎหมายเรื่องของการชุมนุม ทำให้เกิดมาตรการรักษาความสงบในชั้นต้น ซึ่งน่าสนใจ หากจะมีการเดินขบวนหรือชุมนุมต้องแจ้งว่าจะพูดเรื่องอะไร ต้องทำเรื่องขออนุญาต แล้วเราจะจัดพื้นที่ให้ ถือเป็นมาตรการที่ดี อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่มีกฎหมายดังกล่าว จึงต้องนำมาเปรียบเทียบว่าถ้ามีแล้วจะดีหรือไม่

เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมที่ปรึกษาและที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯ จากนั้น นายวิโรจ อิ่มพิทักษ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การชุมนุมของม็อบกลุ่มต่างๆ และเสนอแนะกันว่าคงจะต้องป้องกัน

โดย นำ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาใช้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯบอกหรือไม่ว่าจะประกาศใช้ใน เขตพื้นที่ กทม. นายวิโรจกล่าวว่า "ก็คงประกาศเป็นจุดๆไป" เมื่อถามว่า แนวโน้มจำเป็นต้องประกาศใช้ใช่หรือไม่ นายวิโรจตอบว่า ต้องดูเหตุการณ์ ถ้าไม่คลี่คลายไปในทางที่ดี และมีสิ่งที่ไม่ปกติก็คงจะนำมาใช้

ขณะที่นายบุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า นายกฯเล่าให้ที่ประชุมฟังถึงสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีอะไรน่าหนักใจ

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ