นายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่ากดดันและข่มขู่กระบวนการยุติธรรม จากการที่ระบุจะยื่นเอาผิดต่อนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยยการสูงสุด (อสส.) ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
กรณีที่มีไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีก่อการร้ายนั้น ว่า นายอภิสิทธิ์และคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีพฤติกรรมกดดัน ข่มขู่ กระบวนการยุติธรรม
แต่การตรวจสอบการใช้อำนาจของ อสส. เป็นกระบวนการตรวจสอบอีกกรณีหนึ่งที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้หลายช่องทาง ทั้งในรัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายอาญา เพื่อตรวจสอบไม่ให้การกระทำของ อสส. เป็นไปตามอำเภอใจ ซึ่งการที่อ้างว่า การกระทำนี้ถือเป็นอำนาจดุลพินิจของ อสส. แต่อำนาจดุลพินิจต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย และไม่ใช่การใช้อำนาจตามอำเภอใจ ฉะนั้นอย่ากลัวการตรวจสอบในการใช้อำนาจ นายพร้อมพงศ์ ควรกลับไปดูว่าพฤติกรรมการข่มขู่คุกคามกดดันกระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เป็นพวกของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นจึงขอให้นายพร้อมพงศ์ พูดความจริงไม่ใช่บิดเบือนเหมือนคนไร้สติที่กล่าวหาผู้อื่น แต่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง นายราเมศ กล่าว