“เต้น” ป้อง “ปู-แม้ว” อัดกลับ ธีรยุทธ เป็นพวกขี้ทูต

“เต้น” ป้อง “ปู-แม้ว” อัดกลับ ธีรยุทธ เป็นพวกขี้ทูต

“เต้น” ป้อง “ปู-แม้ว” อัดกลับ "ธีรยุทธ" เป็นพวกขี้ทูต ไม่อยู่เคียงข้าง ปชช.ชวนพบปะคนเสื้อแดงแลกเปลี่ยนทัศนะคติประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง
 
กล่าวถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี ตั้งฉายาให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า “ขี้หย้อง” หรือ “ขี้แบ๊ะ” พร้อมตั้งฉายา “ขี้ขำ” ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานครบรอบ 40 ปี 14 ตุลาว่า คนบางคนถ้าอายุมากแล้วความคิดเลอะเลือน พูดจาเลอะเทอะ เขาจะเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการนั่งเล่นขี้ การพูดของนายธีรยุทธนั้นเต็มไปด้วยสำนวนทั้งภาษากลางและภาษาถิ่นที่ว่าด้วยขี้ เปรียบเทียบคนอื่นด้วยคำว่าขี้เต็มไปหมด ตนเห็นว่านี่ก็เป็นรูปธรรมของคน ๆ หนึ่งที่เดินมาถึงช่วงหนึ่งของชีวิตก็มานั่งเล่นขี้ให้คนเห็น

สิ่งที่นายธีรยุทธพยายามอธิบายบางเรื่องตนก็เห็นด้วย แต่หลักใหญ่นั้นตนเห็นแตกต่าง

เพราะความชิงชังต่อ พ.ต.ท.ทักษิณได้บดบังความคิดของนายธีรยุทธจนไม่กล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา และปักธงให้ชัดว่าความขัดแย้งที่แท้จริงในสังคมไทยเกิดขึ้น เพราะพัฒนาการทางการเมืองของผู้คน และกลุ่มชนชั้นนำหรือกลุ่มอนุรักษ์นิยมเดิมปฎิเสธการเติบโตและการดำรงอยู่ของคนระดับล่าง ซึ่งได้มีการพัฒนาการชีวิตของตนเอง มีช่องทางเข้าถึงการสื่อสาร รวมทั้งการจัดการทรัพยากรมากขึ้น จนมีความมั่นใจว่าสิทธิเหล่านั้นเป็นสิทธิของตนเองโดยชอบ และประกาศตัวทวงสิทธิเหล่านั้น

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าปรากฎการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่มูลเหตุของความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง

และไม่ใช่ปัญหาทางการเมืองในระดับรากแก้วของประเทศไทยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผลผลิตของชนชั้นล่างที่เติบโตมาจากต่างจังหวัดแล้วเข้าถึงทุนทรัพยากร อำนาจทางการเมืองด้วยการสนับสนุนจากคนชนชั้นเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ เมื่อชนชั้นล่างเข้าสู่อำนาจก็ได้จัดสรรผลงานจนเกิดประโยชน์ที่สามารถสัมผัสได้จริงกับคนชั้นล่างที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เขาจึงมีความรู้สึกสูญเสีย เมื่อกลุ่มอนุรักษ์นิยมเดิมใช้อำนาจนอกระบบในการโค่นล้มโอกาสและความหวังของพวกเขา

“การที่นายธีรยุทธพยายามใช้สำบัดสำนวน เปรียบเทียบว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นขี้ขำ และนายกฯเป็นขี้หย้องหรือขี้แบ๊ะ ผมยืนยันว่าเป็นแค่ความคิดเฉพาะของนายธีรยุทธ ซึ่งไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง สิ่งที่นายธีรยุทธกำลังแสดงออกตลอดเวลาของความขัดแย้งใหญ่ 7 ปีที่ผ่านมา ถ้าเทียบเป็นสำนวนก็เปรียบเหมือนนายธีรยุทธเป็นขี้ทูต ที่เป็นอาการของคนเป็นโรคเรื้อน มือกุดเท้ากุด ทำตัวไม่รู้สึกรู้สา ไม่อยู่เคียงข้างประชาชน ไม่แม้แต่จะประนามการใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชนด้วยซ้ำ หมายความว่ามีรัฐประหารเมื่อปี 49 มีการใช้ตุลาการภิวัฒน์สร้างความอยุติธรรมมากมาย มีการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร มีการใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นายธีรยุทธเคยเหยียดแขนเหยียดขาต่อต้านมาก่อนทั้งสิ้น การที่อยู่ในมุมมืดและออกมาพูดให้คนอื่นเสียหายเป็นครั้งคราวและหลบหายไป ภาษาอีสานเรียกว่าขี้คันคาก ที่เหมือนเป็นคางคกที่มีต่อมพิษอยู่ใกล้ศีรษะและจะออกมาพ่นพิษใส่ฝ่ายต่างๆตลอดเวลา” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นายธีรยุทธไม่ควรจะมีความเข้าใจว่าตัวตนของตนเองนั้น

มีความศักดิ์สิทธิ์จนถึงขนาดที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ใครแต่ละครั้งสังคมจะต้องคอยตาม เพราะตนเห็นว่าภารกิจการสร้างประชาธิปไตยในประเทศไม่ใช่ภารกิจของคนพิเศษแต่อย่างใด แต่เป็นภารกิจของคนธรรมดา ถ้าตัวเองเป็นผู้วิเศษนั่นเป็นลักษณะสะท้อนว่าไม่ใช่จิตวิญญาณของประชาธิปไตยที่มีอยู่ในตัว อย่างไรก็ตามตนเคารพในประวัติศาสตร์ของคนเดือนตุลา แต่กังขาต่อบทบาทและจุดยืนของคนตุลาบางคนที่ยอมต่อเผด็จการ ขายจิตวิญญาณต่ออำนาจนอกระบบ ตนคิดว่าอุดมการณ์ของ 14 ตุลายังอยู่ 40 ปีผ่านมาเป็นอย่างไร คนไทยเข้าใจได้ แต่นายธีรยุทธไม่เข้าใจประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นล่างที่เติบโตมาใหม่ จึงอยากเชิญชวนนายธีรยุทธหาโอกาสพบปะคนเสื้อแดงบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำคนเสื้อแดง เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะคติประชาธิปไตย จะได้รู้ว่าสิ่งที่พูดมาเป็นสิ่งที่ล้าหลังกว่าความคิดของประชาชน จะได้ทบทวนตัวเอง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์