เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่โรงเรียนวัดดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดโครงการรักษาต้อกระจก ซึ่งจัดโดยนายแทนคุณ จิตอิสระ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนางกนกนุช นาคสุวรรณภา สก. ดอนเมือง โดยมีประชาชนเข้าร่วมโครงการอย่างคึกคัก และมีแพทย์จากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว องค์การมหาชน มาให้บริการ
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่แยกอุรุพงษ์ว่า
อยากให้การปฏิบัติของฝ่ายรัฐและประชาชน เลี่ยงเกิดความรุนแรง และปฏิบัติตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ต้องดูแลไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่ถ้าใช้อำนาจบังคับจะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนอัดอั้นตันใจชุมนุมมากขึ้น จึงขอให้เคารพสิทธิกัน ส่วนการที่นายกฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าผู้ชุมนุมไม่ควรปิดถนนเพราะกีดขวางการจราจรทำให้คนอื่นเดือดร้อนนั้น อยากให้ปฏิบัติเสมอภาคกับผู้ชุมนุมอื่น ๆ เพราะเคยมีผู้ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญเคลื่อนไหวมาที่หน้ารัฐสภา เจ้าหน้าที่ปล่อยอิสระปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน และอยากให้รัฐบาลตระหนักว่าการชุมนุมเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อปิดพื้นที่ไม่ให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นอิสระทางการเมือง หรือปิดพื้นที่การตรวจสอบ และใช้อำนาจโดยมิชอบ ทั้งนี้รัฐบาลต้องตระหนักว่ามีกลุ่มคนที่ไม่พอใจการกระทำของรัฐบาล ถ้ายอมรับฟังและทบทวนพฤติกรรมตัวเอง ทุกอย่างจะเดินหน้าได้
เมื่อถามว่ามีการโจมตีพรรคว่านกหวีดหายหรือไม่ ถึงไม่ยอมช่วยประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ พูดถึงเงื่อนไขเวลาเกี่ยวกับการนำมวลชนอย่างชัดเจนว่าขึ้นอยู่กับกฎหมายนิรโทษกรรมว่ากรอบเวลาช่วงใดที่จะออกมาเคลื่อนไหว ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการที่ต้องดูให้ครอบคลุม และสิ่งที่ต้องจับตาคือคดีที่ตัดสินไปแล้ว ส่วนคดีอื่นๆ เข้าอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะถอยหลังกลับมา.