“ปลอด”หนีแจงเขื่อนแม่วงก์

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนและกระบวนการจัดทำรายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจให้ก่อผลกระทบต่อ ชุมชุนอย่างรุนแรง

ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (อีเอชไอเอ) กรณีโครงการเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ โดยเชิญนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียรมาให้ข้อมูล แต่นายปลอดประสพมอบให้นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนบริการจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) มาชี้แจงกมธ.แทน

โดยนายศศินชี้แจงว่า โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เป็นของกรมชลประทานที่ศึกษามาตั้งแต่ก่อนเหตุน้ำท่วมปี 2554 ต่อมาถูกบรรจุไว้ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของ สบอช. โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 อนุมัติสร้างเขื่อนแม่วงก์ ทั้งที่อีเอชไอเอยังไม่เสร็จสมบูรณ์  อย่างไรก็ตาม รายงานอีเอชไอเอ ปี 2540 สนับสนุนให้สร้างเขื่อนบริเวณเขาชนกัน จ.นครสวรรค์แทน เพราะรองรับน้ำได้ 70% หรือ 500 ล้านลูกบาศ์กเมตร แต่หากสร้างในพื้นที่ปัจจุบันรับน้ำได้ 30-40% หรือ 200 ล้านลูกบาศ์กเมตรเท่านั้น

“การสร้างเขื่อนแม่วงก์กระทบระบบนิเวศน์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งเสือโคร่งจำนวนมาก เป็นอันดับสองของโลกรองจากอินเดีย แม้เป็นพื้นที่แค่ 1 % แต่ก็ต้องรักษาไว้ในเรื่องระบบนิเวศน์ ขณะที่ประโยชน์ในการกักเก็บน้ำมีเพียง 1 แสนไร่ ไม่ใช่ 3 แสนไร่ตามที่เข้าใจกัน ที่สำคัญจุดประสงค์เดิมของเขื่อนแม่วงก์ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งไม่ใช่น้ำท่วม”นายศศินยืนยัน

ขณะที่นายสุพจน์ยืนยันกับกมธ.ว่า เขื่อนแม่วงก์สามารถลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมได้ โดยลดอัตราการไหลสูงสุดของน้ำจาก 1,000 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที เหลือ 490 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ถือว่าลดปัญหาได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ รายงานอีเอชไอเอที่ระบุว่า ยังไม่สมบูรณ์นั้น นายกฯและนายปลอดประสพให้นโยบายว่า พร้อมเชิญนายศศิน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ สื่อมวลชน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ หากมีข้อมูลใหม่ก็พร้อมนำไปพิจารณาเพิ่มเติม

ด้านนายศุภชัยได้สอบถามนายสุพจน์ กรณีครม.อนุมัติโครงการเขื่อนแม่วงก์ได้เสนอรายงานอีเอชไอเอที่สมบูรณ์ต่อ ครม.หรือไม่ ซึ่งนายสุพจน์ชี้แจงว่า รายงานของEHIA ที่เสนอให้ครม.รับทราบนั้น เป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ของกรมชลประทานเท่านั้นที่เสนอมายัง สบอช.แต่ยังไม่มีการสรุปรับฟังความเห็นจากหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี ที่ประชุมกมธ.ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีครม.อนุมัติการสร้างเขื่อนแม่วงก์ได้ อย่างไร ในเมื่อรายงานอีเอชไอเอที่เสนอให้ครม.พิจารณานั้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงไม่น่าจะถูกต้องในด้านหลักการ

มีความเห็นจากนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการบริหารจัดการน้ำ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กต่อโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ว่า ไม่เห็นด้วยที่จะสร้างในพื้นที่ดังกล่าว ควรย้ายจุดหรือเปลี่ยนวิธีเก็บกักชะลอน้ำน่าจะดีกว่า  ทั้งนี้ ประเทศไทยยังจำเป็นต้องสร้างเขื่อน แต่ต้องเป็นเขื่อนที่พร้อมผลิตกระแสไฟฟ้า และต้องพิจารณาให้ดีว่า ควรสร้างที่ไหนจะเกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับสาธารณะสมบัติและสังคม