เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลา 16.15 น. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ใช้งบประมาณ 252,000,000 บาท เพื่อดำเนินโครงการขุดลอกร่องน้ำปัตตานี ให้มีความลึก 7 เมตร ตามที่ภาคประชาสังคมในพื้นที่ร้องขอ เพื่อแก้ปัญหาร่องน้ำปัตตานีตื้นเขินจนเรือเข้ามาขนถ่ายสินค้าไม่สะดวก เนื่องจากการประมงเป็นอาชีพหลัก และสะท้อนถึงจิตวิญญาณของชาวปัตตานี อีกทั้งที่ประชุม กพต.จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอการอนุมัติให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซื้อที่ดินจำนวน 165 ไร่เศษ ในวงเงิน 21,975,700 บาท ในการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จ.ปัตตานี เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล และพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานครัวโลก
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)
ดำเนินโครงการจัดตั้งอาสาสมัครพิทักษ์เมือง(อส.พม.)ต่อไปในปี 2557 โดยใช้งบประมาณ 83,970,000 บาท เพราะโครงการนี้ประสบความสำเร็จและมีเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ กพต.ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ เมื่อเดือน ต.ค.2547 จำนวน 51 ราย ตามที่ ศอ.บต.เสนอ โดยมีหลักเกณฑ์คือกรณีพิการ จะได้รับเงินรายละไม่เกิน 4,500,000 บาท บาดเจ็บสาหัส รายละไม่เกิน 1,125,000 บาท บาดเจ็บปานกลาง รายละไม่เกิน 675,000 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อย รายละไม่เกิน 225,000 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ ปี 2557 ของ ศอ.บต. พร้อมกันนี้ให้พิจารณาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือนักศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่อพยพกลับประเทศไทยเพราะเกิดเหตุจลาจลในประเทศอียิปต์ ให้ได้กลับไปศึกษาต่อที่อียิปต์ในเดือน ต.ค.2556 รวม 849 คน โดยให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยดำเนินการเรื่องของการขอวีซ่า และให้ศอ.บต.เสนอต่อขอการอนุมัติจากที่ประชุมครม.จัดสรรงบประมาณ 18 ล้านบาทเศษ เพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าวีซ่า โดยจะส่งกลับ 2 รุ่น ซึ่งรุ่นแรกจะกลับภายในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันการสอบ และรุ่นที่ 2 หลังวันตรุษอีฏิลอัฏฮา ปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา ยังมอบหมายให้กพต.พิจารณารายงานสรุปสถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2555-2556 ซึ่งศอ.บต.ร่างขึ้น เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป รวมทั้ง รองนายกฯได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่ากระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการจัดตั้งอำเภอขึ้นใหม่ 2 อำเภอ ใน จ.ยะลา โดยมี 1 อำเภอแยกจาก อ.เมือง และอีก 1 อำเภอจะแยกจาก อ.รามัน
ด้านนายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การจัดตั้งอำเภอขึ้นใหม่ 2 อำเภอ ใน จ.ยะลานั้น สืบเนื่องจาก นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
ได้เสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุม กพต.เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2555 ซึ่งได้มีมติเห็นชอบ และมอบหมายให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขณะนี้เรื่องดังกล่าวจึงยังอยู่ในกระบวนการของกรมการปกครอง ทั้งนี้ เหตุผลในการแยกออกมา เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์ในเรื่องของจำนวนประชากร และเรื่องของพื้นที่ โดย อ.เมือง จ.ยะลา มี 14 ตำบล ขณะที่ อ.รามัน มี 16 ตำบล ซึ่ง ต.โกตาบารู เป็นพื้นที่ชุมชนที่มีความเจริญเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลเรื่องการเข้าไปดูแลประชาชนในด้านต่าง ๆ ง่าย
และใกล้ชิดมากขึ้น ในระดับอำเภอ อาทิ ความเป็นอยู่ ความมั่นคง และความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้อยู่บ้าง เพราะประชาชนต้องการรับบริการต่าง ๆ ได้ใกล้ชิดมากขึ้น สำหรับชื่อของอำเภอใหม่นั้นยังไม่มีการตั้งชื่อ ซึ่งอาจมีการขอพระราชทานชื่อ เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่เหล่านี้.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
