เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย แชนแนล กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว.ว่า ขั้นตอนแรกคือนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามคำร้องของฝ่ายค้าน คือส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยแจ้งรัฐบาลให้ระงับการทูลเกล้าฯ หรือไม่ ทั้งนี้ไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐบาลต้องประกาศว่าวันที่ 1 ต.ค. จะทูลเกล้าฯ โดยไม่รอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่เรื่องยังมีปัญหาอยู่แล้วจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ทำไม ตนค่อนข้างเชื่อว่าถ้าศาลพิจารณาไม่ทันอาจจะมีคำสั่งออกมา ทุกคนก็ทำหน้าที่ตัวเองสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่หากทูลเกล้าฯ แล้วเกิดปัญหาขั้นตอนที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ต้องมีปัญหาอีกว่าศาลตัดสินมาแล้วจะปฏิบัติอย่างไร หากชัดว่าศาลพิจารณาไม่ทัน ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างนั้นมีเหตุผล ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว
“หากวันที่ 1 ต.ค.นี้นายกฯ จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ คงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการกดดันว่าถ้าใช้วิธีนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว จะทำให้ศาลมีแรงกดดันมากขึ้น ถ้าศาลตัดสินว่าไม่ชอบก็จะยุ่ง เพราะเรื่องทูลเกล้าฯ แล้ว และคงเป็นความพยายามสร้างกระแสกดดัน ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะนำเรื่องที่ยังมีข้อโต้แย้งและอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นำความขึ้นกราบบังคมทูล เรื่องนี้นายกฯ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้มีปัญหาในขั้นตอนที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงเจตนารมณ์อยู่แล้วว่าไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญ เห็นได้จากการพูดหลายครั้งมีลักษณะข่มขู่ศาล” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.