นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการเปิดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการสาขาพรรค เจ้าหน้าที่สาขาพรรค และคณะทำงานในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ตนขอชื่นชมชาวใต้ที่ยังมีความเหนียวแน่นในการยืนหยัดต่อสู้กับความไม่ถูก ต้องร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้กล้าใช้อำนาจทำหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ทั้งขัดต่อกฎหมายและขัดต่อหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
แต่เราก็ยืนหยัดในการต่อสู้ สิ่งที่เห็นถึงความพยายามของฝ่ายรัฐบาลในการใช้อำนาจกับเงิน เพื่อกดขี่ทางความคิดของชาวใต้มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะพัฒนาพื้นที่เฉพาะที่เลือกพรรคไทยรักไทย มาถึงยุคนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ที่ประกาศว่าจะไม่สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติให้ จ.ภูเก็ตเพราะไม่มีอารมณ์ แต่พี่น้องที่นี่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้องซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะหากประชาชนยอมตามสิ่งที่รัฐบาลต้องการ ยากที่คนที่รักความถูกต้องจะยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นได้ จากการใช้ทุกวิถีทางที่จะใช้เงิน และอำนาจเพื่อให้สยบยอมจากฝ่ายแนวความคิดที่ไม่เห็นด้วย แต่สิ่งที่สำคัญกว่า เพื่ออนาคตลูกหลานและประเทศชาติคือ ยืนหยัดความไม่ถูกต้อง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนมีมาก โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ และอื่นๆ เช่นภัยพิบัติ ปัญหาการเมือง 2 ปีที่ผ่านมาปัญหาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์คือไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา และไม่สามารถทำตามความหวังที่สร้างไว้ให้กับประชาชนในทุกเรื่อง
ขณะเดียวกันมุ่งเดินหน้าทำสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์และสร้างความเสี่ยงต่างๆ ในอนาคตบ้านเมืองในวันนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงในรูปของการปฏิรูป แต่ไม่ใช่อย่างที่รัฐบาลกำลังดำเนินการและไม่ต้องไปรบกวน นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องมาคอยประสานงาน เพราะองค์ความรู้ในประเทศมีเพียงพอแล้วอยู่ที่การตัดสินใจ เช่น หากจะปฏิรูปเศรษฐกิจให้เป็นธรรมต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็นต้น โดยพรรคประชาธิปัตย์กำลังดำเนินการโดยผ่านพิมพ์เขียวโครงสร้างประเทศไทยอยู่ ขณะนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เราจะต้องเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้กับคู่แข่งในสนามการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป ที่ผ่านมาบุคลากรของพรรคก็ทำงานหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ท่ามกลางสถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมีข้อจำกัดมาก ซึ่งการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกับผู้มีอำนาจจะเจอทุก เรื่อง ภาคธุรกิจออกมาพูดก็เจอสรรพากร ผู้นำท้องถิ่นออกมาพูดก็เจอฝ่ายปกครอง แม้แต่บริจาคเงินน้ำท่วมยังเจอกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข่มขู่ คุกคามทุกอย่าง
ดังนั้นเราจึงมองเห็นปัญหาต่างๆ เหล่านี้และได้ปรึกษากันภายในว่า จะต้องปรับโครงสร้างบางอย่าง เพื่อให้สามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขณะนี้คณะทำงานได้จัดทำเสร็จแล้ว และคณะกรรมการบริหารพรรคอนุมัติหลักการแล้ว จากนี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารกับส.ส.พรรค เพื่อแก้ไขเขียนเป็นข้อบังคับ เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่พรรคได้อนุมัติต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า เราต้องมีความหนักแน่น เด็ดเดี่ยว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการยืนหยัดความถูกต้องคือหัวใจสำคัญในความสำเร็จในวันข้างหน้า เราไม่รู้ว่าการเมืองแต่ละช่วงจะเป็นอย่างไร บางครั้งเราได้รับชัยชนะ และได้รับบทบาทจากสภาและประชาชนในการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารเราก็จะเดินหน้า ผลักดันสิ่งเหล่านี้ต่อไป หลายโอกาสเราไม่สามารถทำได้ ก็ต้องเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของบ้านเมืองด้วยความเข้มแข็ง ตนไม่สามารถบอกได้ว่าเราจะชนะการเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่บอกว่าได้ ถ้าเราเหนียวแน่น หนักแน่นเหมือนเดิมตลอด สิบปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่คู่กับสังคมไทยเพื่อลูกหลานของเราต่อไป