บินไทยยันมาตรฐานเหนือกว่าที่อื่น ไม่ทอดทิ้งผู้โดยสาร

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น.วันที่ 10 ก.ย. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. ในฐานะประธานบอร์ดการบินไทย
 
ให้สัมภาษณ์กรณีเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 679 เส้นทางกว่างโจว-กรุงเทพฯ เกิดเหตุไถลออกนอกรันเวย์ ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ยืนยันว่าการดูแลผู้โดยสารของสายการบินไทย และลูกเรือทุกคนมีมาตรฐาน ไม่ได้มีการทอดทิ้งผู้โดยสารตามที่มีการกล่าวหาผ่านโซเชียลมีเดีย แต่การดูแลนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้ถึงขั้นประกบตัวต่อตัวกับผู้โดยสาร แต่ยืนยันว่าให้การดูแลได้อย่างทั่วถึง ส่วนสัมภาระที่ไม่สามารถนำออกมาให้ผู้โดยสารได้ทันที เพราะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตามได้แจ้งผู้โดยสารให้มารับสัมภาระได้ตั้งแต่เช้าวันเดียวกันนี้ (10 ก.ย.) ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นขณะนี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล 2 ราย

“เรายังเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินและกัปตัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ โดยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330 มีประมาณ 25-30 ลำ แต่ลำที่เกิดอุบัติเหตุมีอายุการใช้งานประมาณ 16-17 ปี  ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ เอ 330 อย่างไรก็ตามยังอยู่ในสภาพการใช้งานที่ดี โดยใช้ในการบินในภูมิภาคเป็นหลัก และมีการตรวจตามวงรอบตลอด รวมถึงนักบินของการบินไทยมีมาตรฐานดีที่สุดแล้ว” นายอำพน กล่าว

เมื่อถามว่ามีการร้องเรียนจากผู้โดยสารในเรื่องการไม่อำนวยความสะดวก เช่น เรื่องกระเป๋าเดินทาง

นายอำพนกล่าวว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าต้องมีขั้นตอนและวิธีปฏิบัติ เพราะเมื่อเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุจะเข้าไปดำเนินการหรือไปเปิดเหมือนรถทัวร์ไม่ได้ ต้องมีการดำเนินการร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายช่างของการบินไทย เจ้าหน้าที่ของแอร์บัส และการท่าอากาศยาน ซึ่งต้องทำงานที่ประสานงานกันอยู่ตลอด นอกจากนี้ต้องขอคุณทางกองทัพที่ส่งทหารมาช่วยในการปรับพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้สามารถนำเครื่องมือมาใกล้เครื่องได้ ซึ่งคาดว่าจะเวลาในการซ่อมแซมประมาณ 48 ชั่วโมง ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บก็ให้เป็นไปตามระเบียบ แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์สายการบินไทยทำเหนือกว่าทุกสายการบิน และผู้ใหญ่ของการบินไทยต้องไปเยี่ยมหรือส่งคนไปดูแล