โดยนางดักเวิร์ธ มีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ส.ค.นี้
พร้อมทั้ง จะขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ "ความสมดุลของชีวิตและการทำงาน" ในการสัมมนาวิชาการด้านสตรีและครอบครัว ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนจะพบหารือกับคณะกรรมาธิการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ ของสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับวันที่ 1 ก.ย. นางดักเวิร์ธ จะไปทัศนศึกษาศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่จ.อยุธยา
ต่อมา ในเช้าของวันที่ 2 ก.ย. จะเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรียนรู้ฟื้นฟูเด็กพิการ ที่ศูนย์เรียนรู้ฟื้นฟูเด็กพิการโดยครอบครัว บ้านบางแค จากนั้นจะไปเยี่ยมให้กำลังใจทหารผ่านศึก และรับฟังการบรรยายสรุป ที่ศูนย์ฝึกอาชีพองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดีรังสิต ในเวลา 14.00 น. ต่อมา ในวันที่ 3 ก.ย. เวลา 15.00 น. นางดักเวิร์ธ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนไทย
พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ เกิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2511 ที่
กรุงเทพมหานคร บิดาชื่อ แฟรงค์ แอล ดักเวิร์ธ มารดาชื่อ ละมัย สมพรไพลิน ครอบครัวของเธอโยกย้ายไปในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามหน้าที่การงานของบิดา เธอจบชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยที่ ฮาวาย และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์นอิลลินอยส์
พันโทหญิงดักเวิร์ธ เข้าร่วมกองทัพสหรัฐ เมื่อปี 2535 และร่วมออกรบในสงครามอิรัก เมื่อปี 2547 ซึ่งเธอปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ช่วยนักบินเฮลิคอปเตอร์ แต่ถูกกับระเบิดทำให้สูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง
หลังจากนั้น ดักเวิร์ธ ได้อุทิศตนทำงานการกุศลเพื่อทหารผ่านศึก
และก้าวสู่วงการ การเมืองด้วยการลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส เขต 6 ของรัฐอิลลินอยล์ เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่แพ้ให้กับตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ไปแบบฉิวเฉียด ต่อมา ได้รับการทาบทามจาก ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสหรัฐ เมื่อปี 2552
และทั้งโลกต้องจับตามาที่ผู้หญิงเก่งและแกร่งคนนี้อีกครั้ง
เมื่อ พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วัย 44 ปี หญิงไทยเชื้อสายอเมริกัน ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเดโมแครต สามารถคว้าชัยชนะในเขต 8 รัฐอิลลินอยส์ สร้างประวัติศาสตร์เป็น ส.ส.หญิงเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.ของสหรัฐฯ
โดยเธอสามารถเอาชนะนายโจ วอลช์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 55 ต่อ 45
แม้ร่างกายจะสูญเสียขาทั้งสองข้าง แต่ด้วยหัวใจที่แน่วแน่ และมีหวัง เธอจึงมีวันนี้
ประวัติศาสตร์โลก จะต้องบันทึกไว้ว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ หญิงไทยเชื้อสายอเมริกัน คือหญิงเหล็กของโลก