นักอนุรักษ์นกโวยลั่น ทั้งรีสอร์ต-ส้วมผุดรอบทะเลสาบเชียงแสน

เชียงราย - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปัจจุบันบรรดานักอนุรักษ์นกต่างแสดงความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบโดยรอบทะเลสาบเชียงแสน เนื้อที่ 2,712.5 ไร่ครอบคลุมเขต อ.เชียงแสน และอ.แม่จัน จ.เชียงราย

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีนกประจำถิ่นและนกอพยพไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชนเกิดขึ้น โดยเฉพาะรีสอร์ตห้องพัก ขณะที่ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ลำดับที่ 5 ของประเทศไทย และลำดับที่ 1,101 ในทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศหรือแรมซาร์ไซต์

น.ส.ดาวรุ่ง ด่านลำมะจาก นักอนุรักษ์นกอิสระ กล่าวว่า จากการศึกษาพื้นที่มา 5 ปีพบว่ามีสิ่งปลูกสร้างรอบทะเลสาบมากซึ่งอาจรบกวนชีวิตของนก ขณะที่การพัฒนาบางอย่างของท้องถิ่นก็ไม่คำนึงถึงสภาพที่แท้จริง ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 2550 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ใช้งบประมาณ 1.8 แสนบาท สร้างห้องน้ำบริเวณริมฝั่งด้านทิศเหนือของทะเลสาบ โดยไม่คำนึงว่าจุดดังกล่าวมีนกลงไปหากินมากที่สุดอีกจุดหนึ่ง และยังมีความพยายามของเอกชนบางรายจะเข้าไปทำเจ็ตสกีด้วยแต่ยังไม่สำเร็จ

นักอนุรักษ์นกอิสระ กล่าวอีกว่า ทะเลสาบยังมีจุดหนึ่งเรียกว่า "จอทองดำ" ปัจจุบันมีสภาพสมบูรณ์และมีนกลงไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าได้มีเอกชนใช้คันดินกั้นจอทองดำ จากนั้นใช้เครื่องสูบน้ำและเปิดให้ชาวบ้านลงไปหาปลาคิดราคาหัวละ 5,000 บาทด้วยเนื้อที่ที่กว้างขวางร่วม 300-400 ไร่ จึงทำให้พวกหาปลาได้กำไรคุ้มค่าโดยไม่รู้ว่าได้สร้างผลเสียต่อชีวิตของนกและธรรมชาติ ล่าสุดนักอนุรักษ์จึงได้พยายามรวมกลุ่มเยาวชนประมาณ 50 คนเพื่อปลุกจิตสำนึกในการร่วมดูแลทะเลสาบเชียงแสนแล้ว

นายวชิรายุ เกียรติบุตร หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าหนองบงคาย ซึ่งดูแลพื้นที่ทะเลสาบเชียงแสน กล่าวว่า ยืนยันว่าทะเลสาบเชียงแสนยังมีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีนกที่อาศัยอยู่กว่า 10,000 ตัว และเป็นแห่งแรกๆ ที่นกอพยพหนีหนาวไปเยือนเป็นประจำทุกปี และจากการสำรวจพบมีความหลากหลายของพันธุ์นกมากกว่าแห่งอื่นโดยมีถึง 240 ชนิด บางชนิดหายากมาก เช่น เป็ดผีใหญ่ ซึ่งปีนี้พบเพียง 2 ตัว เป็นต้น สำหรับเรื่องที่นักอนุรักษ์เป็นห่วงนั้นขอชี้แจงว่ากรณีรีสอร์ตต่างๆ ที่สร้างอยู่โดยรอบทะเลสาบนั้นอยู่นอกเหนือเขต และต่างมีเอกสารสิทธิ จึงไม่มีอำนาจเข้าไปดูแล แต่ก็เป็นห่วงเรื่องการปล่อยของเสียจากรีสอร์ตต่างๆ จึงพยายามตรวจวัดคุณภาพน้ำทุกๆ 1 เดือน ก็พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

นายวชิรายุ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการสร้างห้องน้ำของท้องถิ่นนั้นก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนปีละเป็นจำนวนมาก และพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่ไกลจากแหล่งนกรวมทั้งมีระบบบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้อง แต่เพื่อไม่ให้รบกวนนกก็จะมีการนำไม้คลุมไปปกคลุมต่อไป ขณะที่ปัญหาพื้นที่ "จอทองดำ" เนื้อที่ 300-400 ไร่นั้น ต้องเข้าใจกันก่อนว่าจองทองคำไม่ได้อยู่ในเขต แต่เดิมเป็นผืนนาของชาวบ้านรายหนึ่งต่อมาปล่อยทิ้งร้างไว้จึงมีน้ำจากทะเลสาบไหลเข้าไป จากนั้นสูบน้ำและเปิดให้คนไปหาปลาซึ่งเรื่องนี้เคยเสนอไปถึงระดับอำเภอให้แจ้งเตือนคนในพื้นที่แล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไรเพราะเป็นที่ดินส่วนบุคคล