ภาพจาก คมชัดลึกข่าวแจ้งด้วยว่า พล.อ.นิพัทธ์ ได้รับแรงสนับสนุนจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขณะที่มีรายงานว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ต้องการผลักดันให้ พล.อ.จิระเดช ข้ามห้วยมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เนื่องจากสนิทสนมเป็นการส่วนตัว ส่วนตำแหน่ง ผบ.ทร. นั้น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. ยังคงยืนยันจะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รอง ผบ.ทร. ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีท่าทีปฏิเสธ ทั้งนี้คาดว่านายกฯ จะนัด ผบ.เหล่าทัพประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งนายทหารระดับนายพลในวันที่ 30 ส.ค. นี้
ส่วนที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการเข้าร่วมเวที "เดินหน้าปฏิรูปประเทศ พัฒนาประชาธิปไตยและประเทศร่วมกัน" ว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมมุ่งมั่นและอยากให้ประสบความสำเร็จ ส่วนข้อเสนอของนายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง ที่ให้นายกฯ เข้าร่วมประชุมสภาก่อนปฏิรูปการเมืองนั้น ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ถือเป็นความเห็น แต่นายกฯ มีภารกิจมาก ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 นายกฯ ก็มาอยู่ที่รัฐสภาเช่นกัน ส่วนการประชุมสภาวันที่ 29 ส.ค. ที่จะยื่นกระทู้สดถามรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร ถ้านายกฯ ว่างก็ควรมา แต่ขึ้นอยู่กับภารกิจของนายกฯ ด้วย หากมาไม่ได้ก็ต้องชี้แจงเหตุผล ฝ่ายค้านก็ควรรับฟัง ไม่ใช่ตำหนินายกฯ และที่สำคัญฝ่ายค้านทำตัวเหมาะสมให้นายกฯ มาตอบหรือไม่
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า การเริ่มต้นที่สามารถนำบุคคลต่าง ๆ มาร่วมนั่งคุยกันถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แม้องค์ประกอบยังขาดบางฝ่ายอยู่ก็ตาม ที่ประชุมได้ร่วมเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยปัจจุบันจนถึงอนาคต ตนคิดว่าการทำงานต้องกำหนดโรดแม็พเพื่อกำหนดโครงสร้างการดำเนินงานให้ชัดเจน เชื่อว่า 3 เดือนจะเห็นภาพได้ นอกจากนี้จะนำรายงานที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองในอดีตมาพิจารณาด้วย อาทิ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ที่มี นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเวทีปฏิรูปหาทางออกประเทศว่า เป็นการเดิน 2 ขา ขาหนึ่งหาเวทีเพื่อสร้างความชอบธรรมรองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายนิรโทษกรรม อีกขาหนึ่งเอามวลชนกดดันตลอดเวลา โดยรัฐบาลและเสื้อแดงกำลังสร้างเวทีเพื่อหาคำตอบที่ตัวเองต้องการ แต่จะทำให้ประเทศเดินหน้าสู่ความขัดแย้ง อยากเตือนผู้ที่เข้าไปร่วมเวทีว่า สุดท้ายจะกลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาล
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ข้อสรุป 7 ข้อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นเรื่องที่ศึกษากันหมดแล้ว แต่รัฐบาลฉีกทิ้ง ที่สำคัญการบริหารประเทศที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ยึดเป้าหมาย 7 ข้อนี้เลย ทั้งเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น การเลือกปฏิบัติ การซ้ำเติมประชาชนที่ยากจนในเรื่องค่าครองชีพ ขนาดนายคณิต ณ นคร นายอานันท์ ปันยารชุน นพ.ประเวศ วะสี ทำเรื่องเหล่านี้มาก็ยังไม่มีความหมาย หรือต้องให้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ มาทำถึงจะยอมรับกันใช่หรือไม่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงว่า เป้าหมายสุดท้ายของตั้งเวทีปฏิรูปอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางเข้าประเทศให้คนบางคนมากกว่าหาทางออกให้กับประเทศ ฝ่ายค้านมีข้อเสนอแนะถึงนายกฯ 4 ข้อ ดังนี้ 1.ควรเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งเพื่อสะท้อนความเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตยที่แข็งแรง 2.ต้องไม่ให้มีการใช้กลไกอำนาจรัฐกลั่นแกล้งฝ่ายที่เห็นต่าง 3.รัฐบาลต้องไม่ทุจริต เริ่มจากนายกฯ และรัฐมนตรีต้องทำเป็นตัวอย่าง และ 4.นายกฯ ต้องประสานฝ่ายรัฐบาลให้ถอนหรือระงับกฎหมายนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนกว่าจะมีคำตอบจากเวทีปฏิรูปการเมืองที่ชัดเจน.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
