จากกรณี เมื่อปี 2546 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ได้เข้าจับกุมดำเนินคดีกับ 3 รีสอร์9หรูกลางทะเล หน้าด่านเกาะเสม็ด
ซึ่งสร้างอยู่ในทะเล ในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ พร้อมทั้งมีคำสั่งให้รื้อถอนในเวลาต่อมา สำหรับรีสอร์ทรุกทะเล ประกอบด้วย มุกเสม็ด อันซีนรีสอร์9 และ พลอยเสม็ด เป็นรีสอร์ตที่สร้างโดยใช้เสาปูนตอกเสาเข็มแน่นหนาลงในทะเล อาคารสร้างด้วยไม้อย่างดี เป็นรีสอร์ทที่มีการแบ่งเป็นห้องพักจำนวนนับสิบห้อง ซึ่งทั้ง 3 แห่ง อยู่ใกล้กัน หากนักท่องเที่ยวจะเข้าพัก ก็จะมีเรือเล็กจอดอยู่ริมหาดโดยจะมีพนักงานดึงเข้าไปในรีสอร์ท ต่อมาหลังถูกดำเนินคดี เจ้าของรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่ง พยายามหาทางออก ด้วยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว จนกระทั่งมีคำสั่งของศาลปกครองออกมาให้ยกคำร้องในการคุ้มครองชั่วคราว จึงเท่ากับต้องยอมรื้อถอนตามคำสั่งของ อุทยานฯ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด เวลา 11.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิปดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ได้ลงเรือจากท่าเรือเทศบาลบ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายสิบนายลงเรือเดินทางไปยังเกาะเสม็ด บริเวณ รีสอร์ตรุกทะเลหน้าด่าน เกาะเสม็ด เพื่อทำการรื้อถอนรีสอร์ทที่สร้างบุกรุกไปในทะเลเกาะเสม็ด ประกอบด้วย มุกเสม็ดรีสอร์ต อันซีนรีสอร์ต และ พลอยเสม็ดรีสอร์ต ที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอนเพราะสร้างรุกล้ำในพื้นที่อุทยานฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงบริเวณรีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง
จึงได้ขึ้นไปบนรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่ง ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน พบมีเรือเร็วที่มีชื่อติดอยู่ที่ข้างเรือว่า “อ่าวพร้าว”
ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของรีสอร์ต ที่เป็นเจ้าของเดียวกันกับอ่าวพร้าวรีสอร์ตที่ถูกพิษคราบน้ำมันเล่นงาน โดยมีพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันขนย้ายข้างของเครื่องใช้ออกจาก อันซีนรีสอร์ต ลงไปในเรือ สอบถามต่างก็บอกว่าเจ้าของให้มาขนโดยไม่รู้ข้อมูล ตรวจสอบโดยรอบทั้ง 3 แห่ง พบว่าได้มีการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่างๆ ออกไปเกือบหมดแล้ว จะเหลือเพียงแผ่นไม้และกระจกที่วางซ้อนกันอยู่จำนวนหนึ่ง โดยพนักงานของรีสอร์ตก็กำลังทยอยขนกันออกไป
ต่อมานายวิเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว โดยเป็นไปตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองและเร่งรัดการดำเนินคดี
และการใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตามอำนาจมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และในวันนี้ก็ถือว่าสิ้นสุด จึงได้นำกำลังมารื้อถอนรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่ง ที่เป็นไปตามกฎหมาย เพราะผู้กระทำผิดย่อมต้องถูกดำเนินคดี จึงขอฝากไว้ว่าไม่มีใครที่อยู่เหนือกฎหมาย ใครที่ทำผิดอยู่ก็ควรเลิก ก่อนที่จะถูกดำเนินคดีแบบเดียวกับรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่งนี้
หลังจากนั้นนายวิเชษฐ์ ได้ถือค้อนนำทัพในการรื้อถอน โดยได้ใช้ค้อนงัดแผ่นไม้ฝาผนัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดรื้อถอนก็ลงมือรื้อถอนรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่ง
โดยการรื้อจากหลังคาก่อน แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะต้องระวังในการปีนขึ้นลง นอกจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ทางเจ้าของรีสอร์ต ก็ได้ส่งพนักงานเข้ามาช่วยในการรื้อถอนด้วย ขณะที่กำลังรื้อถอนได้มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มายืนดูกันอยู่ที่ท่าเรือเกาะเสม็ด ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 100 เมตร ได้ปรบมือให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังรื้อถอน
นายมโนพัศ กล่าวว่า การรื้อถอนคาดว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วัน
ส่วนการฟื้นฟู ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมใต้ทะเล และเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหาย คงต้องมีการเรียกกับเจ้าของรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่ง อย่างแน่นอน จะประมาณเท่าไหร่ คงจะมีการประชุมสรุปกันอีกรอบ นอกจากรีสอร์ต ทั้ง 3 แห่งนี้ การเลี้ยงปลาในกระชังของกรมประมงที่อ้างว่าเป็นโครงการวิจัย เมื่อแล้วเสร็จก็ต้องรื้อ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปในบรรทัดฐานเดียวกัน
ด้านชาวบ้านที่มาดูการรื้อถอนที่ท่าเรือเกาะเสม็ด ต่างก็รู้สึกดีใจที่สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง
เพราะถือเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่า ที่ชาวบ้านทุกคนต่างหวงแหน แต่กลับถูกลุ่มนายทุนที่เห็นแก่ได้บางคนมาย่ำยีทำลายธรรมชาติโดยไม่คิดถึงผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่มีค่าอนันต์นอกจากนี้ยังต้องการให้ทางกรมอุทยานฯช่วยตรวจสอบพื้นที่ของเกาะเสม็ดทั้งหมดว่ามีพื้นที่อนุญาตทั้งหมดเท่าไหร่ เพราะ ปัจจุบันมีนายทุนบางรายได้บุกรุกพื้นที่ของอุทยานฯสร้างเป็นรีสอร์ทหรูนับสิบไร่ จึงต้องการให้ตรวจสอบเพื่อทวงคืนธรรมชาติของเกาะเสม็ด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
