'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' เผยพระองค์เจ้าโสมสวลีทรงรับ 'ควายถูกเผาทั้งเป็น' อยู่ในความดูแล รับสั่งสร้างคอกมุ้งลวดกันแมลงวันตอมแผล เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อุบลฯรุดดูอาการ
22ส.ค.2556 จากกรณีพระเอกใจบุญ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" โพสต์ข้อความและเรื่องราวของเจ้าน้อย
ควายเพศเมียท้องแก่ของนายทองใส แสงสว่าง อายุ 64 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 83 หมู่ 15 บ้านโนนสว่าง ต.หัวนา อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ที่ถูกไฟเผาทั้งเป็นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนายบิณฑ์ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2 หมื่นบาท ในการสร้างคอกมุ้งลวดให้เจ้าน้อย ป้องกันแมลงวันตอมแผลนั้น
"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า
"สวัสดีครับเพื่อนๆ...ตอนนี้น้องน้อยหรือควายตัวนี้ที่ถูกคนใจร้ายเผา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงรับอยู่ในความดูแลของพระองค์ทั้งหมดครับ พระองค์รับสั่งให้สร้างคอกที่ติดมุ้งลวดอย่างดีและทำอย่างถาวร จะนำยาที่ดีส่งไปทำการรักษา โดยพระองค์ท่านจะให้กรมปศุสัตว์ที่ กทม. ประสานกับทางจังหวัดอุบลราชธานีโดยมีการเฝ้าสังเกตุอาการตลอด 24 ชั่วโมง พระองค์ท่านรับสั่งว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือมีอีก 1 ชีวิตที่อยู่ในท้อง เราต้องให้แม่ปลอดภัยแล้วลูกก็จะปลอดภัยพระองค์เป็นห่วงอย่างมากครับ..เมื่อคืนผมเลยโทรไปหาปศุสัตว์ที่จังหวัดอุบลราชธานีแล้วแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแต่เช้า และจัดการทำคอกให้อย่างดีที่สุดให้มีการติดมุ้งลวดอย่างดีไม่ให้แมลงวันเข้าได้มีการทำความสะอาดตลอดดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะคลอด..กระผมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน..ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ"
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 10.00น. นายทองใสได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ ร.ต.ท.ธนชัย ชมพูโคตร พนักงานสอบสวน สภ.ม่วงเฒ่า ต.ม่วงเฒ่า อ.เขมราฐ จากกรณีได้เกิดไฟไหม้กระท่อมนาแล้วไฟได้ไหม้ตัวเจ้าน้อยที่ผูกอยู่ใต้ถุน ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นแผลพุพองไปเกือบทั่วตัว โดยเหตุได้เกิดตั้งแต่คืนวันที่ 1 ส.ค.เวลาประมาณ 20.30 น.
นายทองใส ให้การว่า ไม่เคยมีศัตรูร้ายแรงพอที่จะลอบทำร้ายกันถึงเพียงนี้
ในวันก่อนเกิดเหตุได้ออกไปเอาหญ้าและฟางข้าวให้เจ้าน้อยกับควายตัวผู้อีกตัวหนึ่ง ที่เลี้ยงคู่กัน แล้วก็ได้กลับบ้านเพื่อจัดการงานศพมารดา ซึ่งหมู่บ้านห่างกับทุ่งนาที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร กระทั่งประมาณ 2 ทุ่มเศษ มองมาเห็นแสงไฟไหม้อยู่บริเวณกระท่อมนา จึงได้ขอแรงเพื่อนบ้านรีบไปช่วยกันดับไฟพร้อมทั้งขอสนับสนุนรถดับเพลิง จากเทศบาลตำบลหัวนา มาช่วยดับ ปรากฏว่า กระท่อมนา ซึ่งเต็มไปด้วยฟางแห้ง ได้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านไปในเวลาไม่นาน
ร.ต.ต.ธรรมนูญ พุฒเถื่อน รอง สวป.สภ.ม่วงเฒ่า กล่าวว่า
จากการวินิจฉัยเบื้องต้น ตร.ตั้งประเด็นว่า อาจจะเกิดจากการลอบวางเพลิงของผู้ไม่หวังดีหรือคนที่ไม่ชอบกันก็เป็นได้ ส่วนอีกประเด็นหรืออาจจะเกิดจากเจ้าของประมาทในการสุมไฟไล่ยุงอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งจะการสอบถามผู้เสียหายแล้วก็ยืนยันว่าไม่มีศัตรูและไม่ได้ก่อไปสุมยุง ตามที่ตำรวจได้ตั้งข้อสมมุติฐานเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ยากขึ้นมาบ้างสำหรับในการสืบสวนสอสวนหาตัวผู้กระทำผิด แต่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามออกพื้นที่เข้าหาข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง หวังจะให้ได้มือเพลิงรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
นายพีระพงษ์ โพธิ์อ่อน เจ้าพนักงานสัตวบาลอำเภอเขมราฐ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้ามาใส่ใจดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
โดยจะได้เข้ามารักษาในวันเว้นวัน จนกว่าเจ้าน้อยจะหายเป็นปกติ คงต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานพอสมควร เท่าที่ดูอาการคิดว่าน่าจะมีทางหายเป็นปกติได้ หากได้อยู่ในคอกที่ปราศจากแมลงวัน นอกจากนี้ยังมี พ.ต.ท.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี สวญ.สภ.ม่วงเฒ่า มอบเงิน จำนวน 2 พันบาท ให้แก่นายทองใสเพื่อสมทบทุนในการรักษาพยาบาลและสร้างคอกให้เจ้าน้อยด้วย
นางทองสวรรณ์ แสงสว่าง อายุ 69 ปี ภรรยาและเจ้าของกระบือ กล่าวว่า เจ้าน้อยตอนนี้อายุได้ 3 ปี กำลังตั้งท้อง ได้ 9 เดือนแล้ว จะคลอดลูกในเร็วๆวันนี้
เคยมีพ่อค้ามาให้ราคาถึง 5 หมื่นบาท แต่ไม่ขาย ต้องการจะเลี้ยงไว้เป็นแม่พันธุ์ประจำคอก เงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อมุ้งลวดมาล้อมคอกเจ้าน้อย ตามที่นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกชื่อดัง ได้แนะนำไว้ ยอมรับว่าครอบครัวก็อยู่ในภาวะที่ยากจน ถึงจะไม่จนแบบมากๆ แต่ลำบากในด้านการเงินอยู่บ้าง ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความเมตตาต่อเจ้าน้อยในครั้งนี้