เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 ส.ค.ที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง หมู่ 10 บ้านป่าคั่น ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง พร้อมด้วยนายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นอภ.เมืองระยอง นายประทีป แสงกระจ่าง นายก อบต.ตะพง นายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมพื้นบ้านประมงเรือเล็ก จ.ระยอง เข้าตรวจสอบปลาตายริมชายหาดเป็นยาวระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผลกระทบจากสารเคมีที่ฉีดสลายคราบน้ำมัน หรือคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลมาจากท่อรับน้ำมันแตกของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
นางอัมพร อยู่ครอบ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านอาหารสามพี่น้องกล่าวว่า
เมื่อเวลา 15.00 น. มีคลื่นสีเหลือง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าขี้ปลาวาฬได้ซัดเข้าชายหาดพร้อมกับปลาแป้นลอยตายขึ้นมาที่ริมชายหาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าถึงการตายของปลาที่ผิดธรรมชาติ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ นอกจากปลาแป้นแล้วยังมีปลาหมึกกระดองซึ่งสัตว์ชนิดนี้ได้หากินอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่ง กินพวกแพลงตอนหรือเคยและลูกปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบ
นายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมพื้นบ้านประมงเรือเล็กจังหวัดระยอง ได้กล่าวว่าขณะนี้ได้มีผลกระทบกับเรื่องของการประมงแล้ว
และที่ผ่านมามีการตายของเต่าทะเล และในวันนี้มีปลาแป้นลอยตายริมชายหาดเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ทางพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ และให้ภาครัฐเข้ามาติดตามแก้ไขในเรื่องสิ่งแวดล้อมทางทะเล มิฉะนั้นกลุ่มประมงเรือเล็กจะไม่สามารถจับสัตว์น้ำทะเลได้ เพราะวงจรชีวิตของสัตว์น้ำได้ถูกทำลายลงเมื่อมีสารเคมีหรือคราบน้ำมันมาผสมน้ำทำให้น้ำทะเลขาดอากาศหรืออ็อกซิเจนในน้ำ ทำให้ปลาเล็กขาดอากาศหายใจและลอยตายขึ้นมาตามชายหาด ซึ่งสร้างผลกระทบให้กลุ่มประมงในระยะยาวอย่างแน่นอน
ด้าน ผวจ.ระยอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าปลาที่ลอยตายนั้นเป็นปลาแป้น ชาวประมงนั้นจะไม่นำปลาชนิดนี้มาประกอบอาหาร
แต่จากการสังเกตคาดว่าจะตายมาหลายวันเนื่องจากมีกลิ่นเน่าเหม็น ดวงตาขุ่นมัวหรือหลุด และไม่แน่ใจว่ามีใครนำมาทิ้งไว้ทำให้ลอยมาติดริมชายหาด แต่อย่างไรก็ตามจะต้องนำปลาที่ลอยตายริมชายหาดนั้นไปตรวจสอบว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ เพราะถ้ามีค่าเกินมาตรฐานต้องส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำอย่างแน่นอน จะให้นักวิชาการนำไปตรวจสอบซึ่งจะทราบผลภายใน 5-7 วัน แต่ริมชายหาดแม่รำพึงนั้นห่างจากจุดที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล และทิศทางลมการพัดพาคราบน้ำมันไม่ได้มาทางบริเวณดังกล่าว ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสัตว์น้ำบริเวณหาดแม่รำพึงมากนัก ในเบื้องต้นดูจากสายตาแล้วการตายของปลาไม่น่าจะเกิดจากคราบน้ำมัน