เกมแรก รัชนกนำ 4-2 แต่เสี่ยวเร่ยเอาคืนสามแต้มรวดพลิกนำ 5-4,6-5 รัชนกทำสี่คะแนนติดต่อกันนำห่าง 9-6 เสี่ยวเร่ยแก้คืนด้วยการเก็บห้าคะแนนรวดนำอีกครั้ง 11-9 และหนีห่างไปเป็น 15-10 รัชนกเบรกเกมด้วยลูกหยอดเน็ตไล่มาเป็น 11-15,12-16 ลูกโฟร์แฮนด์โอเวอร์เฮดของเสี่ยวเร่ยทำงานได้ดีเก็บคะแนนได้เกือบทุกครั้งนำ 19-13
รัชนกไม่ท้อไล่มาเป็น 15-19 ,16-19,17-19 ก่อนจะพุ่งตีออกให้เสี่ยวเร่ยนำ 20-17 พร้อมกับได้ 3 เกมพอยท์ แต่รัชนกทำสองคะแนนไล่มาเป็น 19-20 ก่อนตีเสมอเป็น 20-20 จากการเช็คลูกท้ายเส้นอย่างแม่นยำของเสี่ยว เร่ยที่ตีออกไปทำให้ต้องดิวซ์พร้อมทำคะแนนรวดชนะไป 22-20 นำ 1-0
เกมที่สอง หลี่ เสี่ยวเร่ย ออกนำ 4-2 รัชนกทวงคืนสามคะแนนรวดพลิกนำ 5-4 จากนั้นเป็นเสี่ยวเร่ยทำคะแนนนำให้รัชนกไล่ตีเสมอ ก่อนน้องเมย์จะพลิกสถานการณ์นำบ้าง 15-14 แต่หลี่ เสี่ยวเร่ยไม่เป๋ทำคะแนนตีเสมอ 15-15และทำคะแนนหนีไปเป็น 20-18 ก่อนชนะไป 21-18 ตีเสมอเป็น 1-1
เกมสามน้องเมย์ออกนำตั้งแต่แรกและรักษาการนำต่อไปเรื่อยๆและชนะไป 21-14 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลก พร้อมลบเลือนฝันร้ายของแบดมินตันไทย หลังจากก่อเหตุวิวาทกันเองจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเดือนกรกฎาคม
ด้าน “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข กล่าวว่า วันนี้เมย์รับได้ดี จึงทำให้หลี่กดดันและเป็นฝ่ายตีเสียเอง ขณะที่เมย์นั้นต้องถือว่ารับสภาพความกดดันรวมถึงคุมเกมได้ดีมาก
“ก็อย่างที่ผมบอก ถ้าเมย์รับดีๆ และหาจังหวะบุกก็จะทำให้หลี่ตีเสียเอง วันนี้เมย์ก็รับได้ดีด้วย เมื่อวานผมคุยกับเมย์บอกเค้าว่า ให้กล้าเล่น กล้าตี มีอาวุธอะไรเอามาใช้ให้หมด อย่ากลัว ซึ่งเมย์ก็ทำได้ตามที่บอก จะเห็นว่าเมย์ไม่มีความกลัวเลย แต่บางจังหวะก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ ชัยชนะวันนี้วัดกันที่ใครคุมเกมได้มากกว่า” โค้ชเป้กล่าว