ศอ.รส.เตือนม็อบระวังมือที่สาม

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก.ศอ.รส. พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร พ.ต.ท.หญิง แพทย์หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษก ศอ.รส.

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า  จากการติดตามการชุมนุมทั้ง 2 จุด คือบริเวณสวนลุมพินีและใต้ทางด่วนอุรุพงษ์
 
แต่ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเดินทางไปยังรัฐสภาและกลุ่มที่สวนลุมพินีจากฝ่ายการข่าวแจ้งมาว่า ยังไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น แต่พบว่ามีการจัดเตรียมรถจยย.กว่า 50 คันและคาดว่าน่าจะไปสมทบกันที่บริเวณถนนอู่ทองใน ใกล้บริเวณรัฐสภา ทั้งนี้ฝ่ายการข่าวได้แจ้งเพิ่มเติมอีกว่า พบกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนดัดแปลงสิ่งของที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ เช่น ไม้หน้าสาม หนังสติ๊ก หัวน๊อต สิ่งของปลายแหลม น้ำมันบรรจุใส่ขวดเครื่องดื่มชูกำลังและบางส่วนยังถือท่อนเหล็ก ซึ่งตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการเฝ้าติดตามสถานการณ์และรอตรวจสอบหากพบว่า มีการกระทำผิดจริง จะถือว่ากระทำผิดตามคำสั่งศอ.รส.ฉบับที่3/56 ซึ่งตามกฎหมายอาญามาตราที่ 84 มีโทษจำคุกไมเกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผอ.ศอ.รส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวานและเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 8 จุด

ในพื้นที่ประกาศฯ อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและเน้นการรักษาเส้นทางการเข้า-ออก และได้สั่งการจากการประชุมศอ.รส.เมื่อช่วงเช้าว่าให้ตำรวจจาก บก.จร.ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร สนับสนุนการประชุมให้เป็นไปตามระเบียบ และเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อแกนนำให้พกพาอาวุธเข้าไปภายในบริเวณพื้นที่ประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯเพราะอาจเกิดเหตุไม่พึงประสงค์

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ได้แสดงภาพเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมถืออุปกรณ์ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธได้เมื่อเวลา09.00 น.ที่ผ่านมา
 
และยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า กรณีที่แกนนำทั้ง 2 คนอยู่ระหว่างเงื่อนไขการประกันตัวในชั้นศาล โดยขณะนี้ฝ่ายสอบสวนกำลังดำเนินการประชุมกับฝ่ายกฎหมายถ้าพร้อมจะยื่นเรื่องเสนอต่ออัยการทันที ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะมีผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมเพิ่มเติมอีก จากฝ่ายการข่าวคาดว่าจะมาอีก 2,000 คน แต่ไม่ทราบว่าจะมาอย่างไร อาจจะเป็นการชุมนุมภายในจังหวัดของตนเอง แต่ไม่อาจเป็นปัจจัยที่บอกถึงความรุนแรงได้

อย่างไรก็ตาม ผอ.ศอ.รส.ได้ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วคอยติดตามแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีพบเห็นภาพคล้ายตำรวจปราบจราจลควบคุมฝูงชนนั่งล้อมวงเล่นไฮโลมาแชร์กันทางสังคมออนไลน์ในเรื่อง พล.ต.อ.อดุลย์ ได้สั่งการให้ ผบช.น.ตรวจสอบว่าภาพดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร ถ้าพบว่าจริงก็ให้ดำเนินการทางวินัยโดยเด็ดขาดรวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่ดูแลรับผิดชอบด้วย ฐานปล่อยปละละเลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำ 2 ราย คือ นายพิเชษฐ์ พัฒนโขติ และนายไทกร พลสุวรรณ เคยเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ.