พระโฆษกยันสมีคำอยู่สหรัฐ ยังไม่สึก จ่อร้องศาลสหรัฐไต่สวนดีเอสไอออกหมายจับมิชอบ ใช้ทนายเสธ.แดง

พระฐกฤตเปิดเผยว่า ขณะนี้ยืนยันว่าสมีคำยังไม่สึกจากการเป็นพระและยังอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาตมาได้ติดต่อกับสมีคำครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งสมีคำยืนยันว่าต้องการกลับประเทศไทย แต่เมื่อถูกถอนหนังสือเดินทางและถูกดีเอสไอออกหมายจับ จึงต้องหลบหนีและเตรียมต่อสู้คดีในสหรัฐ โดยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนว่าการออกหมายจับของดีเอสไอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกหมายจับในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้หญิงคนดังกล่าวก็มีสามีใหม่ไปแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดทางผู้เสียหายจึงเพิ่งออกมาให้ข้อมูล โดยคาดว่าอาจจะเป็นการกลั่นแกล้ง

พระฐกฤตกล่าวอีกว่า บวชมานาน 3 ปี ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจและเมื่อบวชแล้วได้มาอยู่ร่วมคณะกับสมีคำ  โดยอาตมาจะทำหน้าที่เป็นโฆษกและจัดงานแสดงธรรมเทศนาของสมีคำ รวมถึงเป็นล่ามแปลภาษาเวลารับกิจนิมนต์เทศน์ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปฝรั่งเศสครั้งที่ผ่านมา ที่เป็นการรับกิจนิมนต์ไปเทศน์ในงานวันวิสาขบูชาโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นการเชิญของพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ (ปานขาว) เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม เมืองตวกหน่ง ประเทศฝรั่งเศส ยืนยันว่าเป็นการเดินทางไปอย่างถูกต้อง เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยได้จำวัดอยู่ที่วัดห้วยนารี อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด อย่างไรก็ตาม สมีคำมักมีปัญหาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไปรับกิจนิมนต์ในต่างประเทศอยู่เป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด

"เท่าที่อยู่ร่วมกับสมีคำ ยืนยันว่าไม่มีเงินมากมายอย่างที่เป็นข่าว ไม่ได้ใช้จ่ายเงินวันละ 10 ล้านบาท และไม่มีเงินฝากในบัญชีมากถึง 40 ล้านบาท คาดว่าเป็นความเข้าใจผิดหลังรับกิจนิมนต์ไปเทศน์หารายได้สร้างโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งการเทศน์ครั้งนั้นได้เงินบริจาคสูงถึง 40 ล้านบาท แต่อดีตเณรคำไม่ได้นำเงินกลับมา เงินทั้งหมดอยู่ในบัญชีของโรงพยาบาล ส่วนการใช้เงินวันละ 11 ล้านบาทนั้น เป็นการติดหนี้บริษัทโตโยต้า จ.สระแก้ว ซึ่งอดีตเณรคำไปซื้อรถโตโยต้า คัมรี สำหรับใช้นำขบวนและถูกทวงหนี้พร้อมยึดรถคืน ส่วนเรื่องการซื้อรถยนต์หรูเบนซ์ มายบัค ปอร์เช่ คาร์เยนร์ หรือโรลส์-ลอยซ์ ซึ่งอดีตเณรคำทำสัญญาผ่อนชำระด้วยตนเองนั้น ยืนยันว่าไม่เคยเห็น เพราะอาตมาเพิ่งมาอยู่กับอดีตเณรคำเพียงปีเดียว สำหรับกระเป๋าหลุยส์ ก็เป็นหลุยส์ราคา 200-300 บาท" พระฐกฤตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการซื้อเครื่องบินเจ็ตสำหรับรับกิจนิมนต์ พระฐกฤตกล่าวว่า สมีคำไม่เคยซื้อเครื่องบินเจ็ตและไม่มีเงินซื้อ  แต่ที่เป็นข่าวเพราะได้รับกิจนิมนต์หลายงานต่อวัน และเจ้าภาพเป็นผู้เช่าเครื่องบินให้ใช้เพื่อเดินทางเท่านั้น อย่างตอนเช้าไปกิจที่ จ.เชียงใหม่ ตอนเย็นไปกิจที่ จ.ภูเก็ต หากไปรถยนต์จะทันได้อย่างไร โดยอาตมาเคยร่วมเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตและเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเช่าจากบริษัทการบินกรุงเทพ ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์สของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขณะนี้ยังเป็นหนี้ค่าเช่าเครื่องบินอยู่

 
พระฐกฤตกล่าวอีกว่า อาตมาอยากขอให้ความเป็นธรรมกับสมีคำ ขณะนี้ผิดถูกยังไม่รู้ สิ่งที่พบเห็นคือมีการไล่ล่า จึงเป็นธรรมดาที่ต้องหลบไปก่อน ในเรื่องเกี่ยวกับพระมีพระธรรมวินัยทางปกครองอยู่ ควรตั้งอธิกรณ์เป็นผู้สอบสวน โดยคดีต้องใช้เวลาพิจารณาหลายปีกว่าจะตัดสินผิดถูก แต่เมื่อมีการไล่ล่า สมีคำก็ต้องต่อสู้คดี โดยจะยังไม่เดินทางกลับจนกว่าจะถูกผลักดันกลับ จนถึงขณะนี้สมีคำยังไม่ได้สึกและอยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการท้องเสีย ส่วนกรณีอวดอุตริ ก็ยังต้องพิสูจน์กันต่อไป

 
ด้านนายสุกิจกล่าวว่า ตนเป็นอดีตทนายความของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แต่ตอนนี้ได้รับการทาบทามให้เป็นทีมกฎหมายและทนายความให้กับสมีคำ เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดีที่ชัดเจน แต่เตรียมที่จะยื่นให้ศาลของประเทศสหรัฐไต่สวนการออกหมายจับของดีเอสไอว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการออกหมายจับในคดีที่เหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปี ส่วนการเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เนื่องจากทราบจากข่าวว่าดีเอสไอกำลังติดตามตัวพระที่ร่วมคณะไปฝรั่งเศสทั้ง 6 รูป จึงต้องนำพระเข้าพบพนักงานสอบสวน