เกิดเหตุการณ์ชาวโรฮิงยาที่ถูกกักตัวอยู่ภายในอาคารกักตัวผู้ต้องขัง ตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 295 คน ลุกฮือก่อหวอดแหกห้องขัง โดยใช้ของแข็งทุบช่องลมคอนกรีตบนชั้นสองของอาคาร และก็โรยตัวลงมาหนีไป 7 คน แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามกลับมาได้ 2 คน ขณะที่ชาวโรฮิงยา ที่เหลือได้พากันลงมารวมตัว อยู่ที่ประตูห้องขังชั้นล่าง ขณะที่บางส่วนพยายามพังบานประตูหน้าต่าง เพื่อหนีออกมา
หลังเกิดเหตุ นายจำลอง ไกรดิษฐ์นายอำเภอสะเดา และ พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ได้เรียกกำลังทั้งของ ตม.สะเดา ตำรวจ สภ.สะเดา และ ตชด.7437 พร้อมอาวุธครบมือและรถดับเพลิงเข้ามาควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งก็ได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นใน ต.สำนักขาม อ.สะเดา มาช่วยเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ชาวโรฮิงยาที่พยายามแหกห้องขังและได้ส่งเสียงร้องตะโกน และร้องไห้เพื่อขอความเห็นใจ อยู่ในความสงบ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งจากการสอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวโรฮิงยาทั้งหมดพยายามแหกห้องขังและต้องรวมตัวลุกฮือ เนื่องจากต้องทนอยู่ภายในห้องกักตัวมานานกว่า 7 เดือน และคับแคบ ต้องอยู่กันอย่างแออัดยังไม่รู้ชะตากรรมว่า ทางการไทย รวมทั้งประเทศที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร