ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
ถึงความคืบหน้าในการกำจัดคราบน้ำมัน จากเหตุท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วกลางทะเลใกล้ชายฝั่งมาบตาพุด จ.ระยอง โดยได้ลอยเข้าสู่เข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ว่า จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าน่าจะใช้เวลากำจัดคราบน้ำมันทั้งหมด มากกว่า 3 วัน ส่วนทางจังหวัด ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย พยายามระดมกกำลังทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ลงพื้นที่ช่วยเร่งทำงาน มีการประสานงานกับทางผู้บริษัท พีทีที โดยตลอด เพื่อระวังเรื่องคราบน้ำมัน จะส่งผลกระทบการประมง ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ถือว่าโชคดีที่น้ำมันไหลเข้าอ่าวเดียว คืออ่าวพร้าว ซึ่งเป็นอ่าวที่แคบและมีลักษณะเว้าเข้าไป เมื่อคลื่นซัดมาน้ำมันก็จะไปอัดอยู่ในอ่าว แต่ที่กังวลคือช่วงน้ำขึ้นน้ำลง ที่น้ำมันบางส่วนจะไหลไปที่อื่น จึงเอาเรือวางทุ่นป้องกัน พร้อมเร่งกำจัดน้ำมันที่อ่าว ทั้งการฉีดสารสลาย และใช้กำลังคนตักไปทิ้ง
ส่วนการตรวจผลกระทบสภาพแวดล้อม และการประมงนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม ดำเนินการฟ้องร้องความเสียหายกับ บริษัท พีทีที นั้น แม้ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึง เนื่องจากต้องเร่งแก้ปัญหาน้ำมันที่ลอยมาให้หมดก่อน แต่คงต้องมีการดำเนินการเรื่องนี้หลังจากกำจัดนำมันหมดแล้ว เพราะกระทบกับหลายส่วนที่ต้องเยียวยา รวมทั้งต้องใช้แรงงานจากหลายหน่วยงาน และการฟื้นฟูสภาพอ่าวพร้าว ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่กระทบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเราควบคุมไม่ให้กระจายไปที่อื่น นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปได้ตามปกติ