แท็กซี่คนดี!เก็บทรัพย์สินค่า2.2แสนคืนเจ้าของ

 19 ก.ค.56 ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ (สวพ.FM 91) นายสกล ถาวรกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สวพ.FM 91
 
ได้ติดต่อประสานงานคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าของ ภายหลังนายเดือน เพียกคะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 9 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี คนขับรถแท็กซี่โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน ทล 2487 กทม. เก็บทรัพย์สินซึ่งเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าสีแดงของผู้โดยสารลืมไว้ที่กระโปรงท้ายรถ เมื่อตรวจสอบดูพบว่ามีทรัพย์สินของมีค่าจำนวนมาก ประกอบด้วยธนบัตรดอลล่าร์ฮ่องกงฉบับละ 500 กับ 1000 ดอลล่าร์ฮ่องกง รวม 43,000 ดอลล่าร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 170,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พระเลี่ยมทอง 2 องค์ เครื่องเพชรจำนวนหนึ่ง ยารักษาโรคความดัน ซึ่งเป็นยาประจำตัวและเสื้อ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 220,000 บาท โดยมีนางสุวรรณี แซ่ชาน อายุ 64 ปี เจ้าของทรัพย์สิน และนายสุเมธ ศรีชัยศักดิ์ อายุ 43 ปี ลูกเขย พร้อมบรรดาญาติๆ เดินทางมาติดต่อรับทรัพย์สินที่ลืมไว้ในแท็กซี่ดังกล่าว

นายสกล กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับแจ้งผ่านหมายเลขสายด่วน 1644

จากนายสุเมธ ว่านางสุวรรณีซึ่งเป็นแม่ยายของตัวเองลืมกระเป๋าไว้บนแท็กซี่ หลังจากขึ้นแท็กซี่จากย่านตากสินมาที่หมู่บ้านไพรเวท ถ.อ่อนนุช 36 ให้ช่วยประสานงานติดต่อคนขับแท็กซี่เพื่อรับของคืน เพราะมีทรัพย์สินจำนวนมาก และที่สำคัญมียาประจำตัวเป็นยาลดความดันที่ต้องทานทุกวัน กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 19 ก.ค. นายเดือนคนขับแท็กซี่ ก็โทรผ่านหมายเลขสายด่วน 1644 บอกว่ามีผู้โดยสารลืมทรัพย์สินไว้ที่รถของนายเดือน เมื่อสอบถามก็ตรงกันกับที่นายสุเมธแจ้งเอาไว้ จึงประสานงานให้มารับมอบทรัพย์สินคืนที่ สวพ.FM 91 ในวันนี้

 ด้านนายเดือน กล่าวว่า ตนรับผู้โดยสารมาจากย่านถ.ตากสิน แล้วมาส่งที่อ่อนนุช ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.
 
เมื่อส่งผู้โดยสารเสร็จตนก็ตระเวนรับผู้โดยสารคนอื่นต่อตามปกติ กระทั่งเวลาเที่ยงคืนเศษ ตนจะต้องเปลี่ยนกะกลับบ้านที่เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ จึงแวะเข้าไปเติมแก๊สที่ปั๊มแก๊สสยามราช ถ.บางนาตราด ระหว่างที่รอเติมแก๊สตนก็เปิดผากระโปรงท้ายรถ พบมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่จึงมั่นใจว่าผู้โดยสารที่ตนรับมาจากย่านตากสินมาส่งที่อ่อนนุชลืมไว้ ซึ่งตนก็ไม่กล้าเปิด จึงโทรแจ้ง สวพ.FM91 จนทาง สวพ.FM91 ประสานคืนกระเป๋าดังกล่าวให้กับเจ้าของ และเพิ่งมาเปิดกระเป๋าตรวจสอบทรัพย์สินที่ สวพ.FM91

  “เมื่อเปิดกระเป๋าตรวจสอบทรัพย์สิน ผมถึงกับตกใจ เพราะมีเงินต่างประเทศ เครื่องประดับเพชร และสร้อยคอทองคำ ซึ่งเป็นของที่มีมูลค่ามาก ยิ่งเจ้าหน้าที่ตรวจดูแล้วบอกว่ารวมมูลค่า 2 แสนกว่าบาท ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ เพราะที่ผ่านมาอย่างมากก็มีแต่ผู้โดยสารลืมโทรศัพท์ไว้ และผมก็แจ้งคืนเจ้าของตลอด ผมรู้สึกดีใจที่นำทรัพย์สินที่เจ้าของลืมไว้กลับคืนให้ ของอะไรที่ไม่ใช่ของผม เป็นของมีเจ้าของเมื่อผม เจอก็จะแจ้งคืนให้อยู่เป็นประจำ ครั้งนี้ถือว่าคืนของที่มีมูลค่ามากสุด ผมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนขับแท็กซี่ที่คิดดีทำดี ผู้โดยสารเจอคนดีก็ดี แต่เจอคนไม่ดีก็แย่เลย เพราะที่ผ่านมามีหลายครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับแท็กซี่ไม่ดี ชิงทรัพย์ ทำร้าย หรือข่มขืนผู้โดยสาร ทำให้ภาพลักษณ์แท็กซี่ไม่ดี การทำมาหากินก็ลำบาก ผมขอเป็นส่วนหนึ่งในบรรดาพี่น้องแท็กซี่ดีๆที่ผมเชื่อว่ามีอีกมาก จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแท็กซี่ ผมเชื่อว่ามันจะเป็นผลดีต่อตนเอง และต่อประเทศด้วย เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยด้วย” นายเดือน กล่าว

ขณะที่นางพรรณีกับนายสุเมธ ก็กล่าวขอบคุณและชื่นชมในน้ำใจของนายเดือนที่เก็บทรัพย์สินที่ลืมไว้มาคืนครบถ้วนทั้งหมด

โดยนายสุเมธ กล่าวว่า แท็กซี่ไม่ดีก็มีเยอะ แต่เชื่อว่าแท็กซี่ดีมีเยอะกว่าอย่างนายเดือนก็เป็นหนึ่งในนั้น ตอนแรกที่รู้ว่าแม่ยายลืมของไว้ในรถแท็กซี่ ก็รีบประสานงาน โทรแจ้งหมดไม่ว่าจะเป็น จส.100 สวพ.FM91 ประสานงานอู่แท็กซี่ โดยแจ้งสวพ.FM91 เป็นที่แรก และยังไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พระโขนงด้วย กระทั่งได้รับการประสาน ให้รับของคืนจาก สวพ.FM91 ก็ต้องขอบคุณทาง สวพ.FM91ที่ช่วยเป็นธุระช่วยประสานติดตามจนได้ของคืน ที่สำคัญก็ต้องขอบคุณนายเดือนคนขับแท็กซี่ที่จิตใจดีนำของมาคืนให้ ตอนแรกก็เผื่อใจไว้เพราะอาจจะไม่ได้คืน พอได้คืนก็ดีใจ โดยเฉพาะนางสุวรรณีแม่ยายของตนดีใจมาก และจะได้กินยารักษาโรคประจำตัวด้วย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางสุวรรณีเดินทางกลับมาจากฮ่องกง และจะมาหาลูกสาวกับลูกเขยที่ย่านอ่อนนุช

โดยเงินดอลล่าร์ฮ่องกงก็ติดตัวมาจากฮ่องกง ซึ่งแลกเป็นเงินไทยไปบางส่วน เงินไทยจะพกติดตัว ส่วนเงินดอลล่าร์ฮ่องกงจะเอาไว้กับทรัพย์สินอื่นในกระเป๋าเสื้อผ้า ภายหลังรับมอบทรัพย์สินคืน นางสุวรรณีและนายสุเมธ ได้มอบเงินสด 5,000 บาท ให้กับนายเดือน เพื่อเป็นสินน้ำใจขอบคุณในความดีครั้งนี้ ขณะเดียวกันนางสุวรรณี ก็รีบกินยาประจำตัวทันที เพราะตั้งแต่คืนที่ผ่านมาก็ไม่ได้กินยา