“สันติ ดวงสว่าง” ไม่เอาเรื่องมือยิงปืนข่มขู่ เพราะเป็นญาติกัน

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายจเร ภู่ทอง หรือ สันติ ดวงสว่าง ศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของเพลงจูบไม่หวาน ว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ตนพร้อมญาติ กำลังนั่งพูดคุยและดูแลลูกน้องกัน ในร้านอาหารเฟรนด์ ถนนอัมพวา ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ถูกคนร้ายซึ่งเป็นลูกค้าในร้านชักปืนข่มขู่และยิงขึ้นฟ้า จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่สภ.เมืองสมุทสงคราม และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคู่กรณีไว้ได้

โดยนักร้องหนุ่มเสียงหวาน เผยว่า ขณะที่ตนกำลังพูดคุยกับญาติเกี่ยวกับเรื่องที่ทางร้านมีกฎระเบียบห้ามพกปืน จู่ๆคู่กรณีกับพรรคพวกประมาณ 3-4 คนนั่งดื่มกินอยู่ในร้านและมีอาการเมาสุรา ก็เดินปรี่เข้ามาที่โต๊ะของตนเหมือนจะหาเรื่องทะเลาะวิวาทและกล่าวหาว่าตนและญาติพยายามพูดยั่วยุและหาเรื่องทะเลาะวิวาท และชักปืน ลูกโม่ ไม่ทราบขนาดขึ้นมาจ่อศีรษะตน ก่อนจะหันกระบอกปืนแล้วยิงขู่ขึ้นฟ้า 2 นัดซ้อน สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้ตนและญาติๆ ที่พยายามเข้ามาห้ามและดึงตนออกจากร้าน

ตนเห็นว่าคู่กรณีทำเกินกว่าเหตุทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักพูดคุย และตนกับญาติก็ไม่ได้พูดถึงกลุ่มของคู่กรณีด้วย จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจสภ.เมืองสมุทรสงคราม เข้าควบคุมตัวชายดังกล่าว

เพื่อสงบสติอารมณ์ระหว่างนั้น หนึ่งในกลุ่มคู่กรณีซึ่งอ้างตัวเป็นข้าราชการท้องถิ่น อ.บางคนที ได้เดินทางมาที่โรงพักและพูดจาต่อว่าตนอย่างรุนแรง แต่ตนไม่ได้โต้ตอบอะไร และเดินทางกลับบ้านพักผ่อน โดยจะเข้าพบตำรวจเพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้

สำหรับสันติ ดวงสว่าง เดิมชื่อ นายจเร ภู่ทอง เกิดวันที่ 10 มกราคม 2511 เป็นชาวพิจิตร มีนิสัยรักการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ก้าวสู่วงการด้วยการเข้าประกวดร้องเพลงรายการ ลูกทุ่งสิบทิศ ของ ดำรง พุฒตาล ทางช่อง 5

จากนั้นจึงมีผู้พาไปฝากตัวเป็นศฺษย์ อาจารย์มนต์ เมืองเหนือ และอาจารย์สงเคราะห์ สมัตถะพาพงษ์ ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนการร้องวเพลง และเขียนเพลงให้สิบเพลงรวด มี จิตรกร บัวเนียม ทำดนตรีให้เพลงเด่นๆ ในชุดแรกนี่ก็มี อาทิ หนุ่ม ร.พ.ช. , ครูดงเด็กดอย , ลั่นทมหลงทาง , โรคประหลาด แต่บทเพลงที่สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักติดหูคือที่สุดคือ จูบไม่หวาน

ต่อมา ช่วงเช้าวันเดียวกัน สันติ ดวงสว่าง ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ตนเองตกเป็นผู้เสียหายถูกคนร้ายยิงปืนข่มขู่ เมื่อมาถึงก็พบกับผู้ต้องหา 2 คน โดยระหว่างนั้น สันติ ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาจนจำได้ว่าเป็นญาติที่รู้จักกันดี แต่ช่วงเกิดเหตุจำไม่ได้ว่าเป็นใคร สันติ จึงไม่เอาเรื่องในข้อหาข่มขู่ และพยายามฆ่า แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว