แกะออกจากเบ้าน้ำเทียนไม่สม่ำเสมอ-เผยเทียนพรรษายักษ์หนักร่วม 1 ตันเร่งแกะสลักเสร็จทันกำหนด
ความคืบกรณีกลุ่มอนุรักษ์ประเพณีคลองห้วย-โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ร่วมกับ อบจ.นครศรีธรรมราช จัดหล่อเทียนหลอมใจขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ สูง 3.30 เมตร เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และเฉลิมฉลองในโอกาสที่คณะกรรมการมรดกโลก ของยูเนสโกมีมติรับรองรับองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช พร้อมแกะสลักต้นเทียนพรรษายักษ์เป็นซุ้มเรือนแก้วรูปองค์พระบรมธาตุเจดีย์
โดยฝีมือสกุลช่างเมืองคอน กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 18 ก.ค.นี้ จากนั้นจะจัดขบวนแห่ทั่วเมืองและร่วมสมโภชเทียนพรรษาในวันพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในวันที่ 19 ก.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ ( 13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกวานนี้ ( 12 ก.ค.) นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ประเพณีคลองห้วย-โพธิ์เสด็จ พร้อมด้วยนายไพโรจน์ มาทยาวุฒิ หรือ “ช่างแก้ว เมืองคอน” นายพัฒนพงศ์ นวลศรีทอง หรือ “ช่างน้อย คลองห้วย” 2 งแกะสลักเทียนพรรษา
พร้อมทีมงานเกือบ 10 คนเดินทางไปยังมณฑลพิธีหล่อเทียนหน้า อบจ.นครศรีธรรมราช ร่วมกันแกะเบ้าหลอมเทียนออก เพื่อทำการแกะสลักลวดลายบนต้นเทียน 2 ด้านเป็นรูปพญานาค 2 ตัวพันรอบลำเทียน
“แต่เมื่อแกะเบ้าเทียนซึ่งทำด้วยท่อพีวีซีขนาด 30 ซ.ม. ออกเป็นที่เรียบร้อยพบว่าบางจุดของต้นเทียนภายในเป้ามีน้ำเทียนไม่สม่ำเสมอ มีลักษณะคล้ายผู้หญิงผมยาวนั่งบนหลังพญานาคยืนขาไปทางส่วนหางพญานาค สร้างความแปลกใจให้กับทีมงานหลอมเทียนพรรษายักษ์เป็นอย่างมาก จึงเข้าไปมุ่งดูหาเลขเด็ดทางหวยงวดวันที่ 16 ก.ค.2556 ที่จะถึงนี้ และต่างมองเห็นเลขเด็ดกันไปต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะในส่วนที่คล้ายใบหูด้านขวาของหญิงสาวน้ำเทียนที่ไม่สม่ำเสมอปรากฏเป็นเลข 4 เล็ก ๆ อย่างชัดเจน
ส่วนใหญ่สรุปเลขเด็ดที่ได้จากการแกะต้นเทียนพรรษายักษ์ออกจากเบ้าเป็นเลขเด็ด 144 ซึ่งเลข 1 หมายถึงเทียนพรรษา 1 เล่ม เลข 4 ตัวแรกหมายถึงผู้หญิงที่นั่งบนหลังพญานาค ส่วนเลข 4 อีกตัวมาจากรอยน้ำเทียนที่ไม่สม่ำเสมอในส่วนใบหูขวาและปรากฏเป็นเลข 4 นำไปทุ่มแทงหวยกันอย่างคึกคักเป็นพิเศษ”
หลังจากนั้นนายไพโรจน์ มาทยาวุฒิ “ช่างแก้ว เมืองคอน” และนายพัฒนพงศ์ นวลศรีทอง หรือ “ช่างน้อย คลองห้วย” ได้ช่วยกันร่างรูปพญานาคพันรอบลำเทียนและเริ่มแกะสลักตกแต่งต้นเทียนพรรษาทันที จนกระทั้งล่วงเข้าสู่วันใหม่ เวลา 02.30 น.ของวันที่ 13 ก.ค. 2556 ช่างแกะสลักลำเทียนจึงยุติการแกะสลักต้นเทียนเพื่อกลับไปพักผ่อน จนกระทั้งในเวลา 13.00 น. 2 ช่างแสลักต้นเทียนพรรษายักษ์ ก็กลับเข้าไปแกะสลักรูปพญานาคและตกแต่งต้นเทียนพรรษายักษ์เล่มดังกล่าวต่ออีกรอบ
โดยคาดว่าการแกะสลักต้นเทียนพรรษายักษ์เล่มดังกล่าวจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 16 ก.ค.2556 อย่างไรก็ตามได้มีผู้บริหาร และข้าราชการสังกัด อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ทราบข่าวเลขเด็ดต้นจากต้นเทียนพรรษายักษ์ได้ทยอยเดินทางมาดูต้นเทียนพรรษายักษ์อย่างต่อเนื่อง
บางส่วนได้ร่วมทำบุญเพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปถวายวัดโพธิ์เสด็จในวันถวายเทียนพรรษายักษ์วันที่ 23 ก.ค. 2556 ตรงกับวันเข้าพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2556 ต่อไป
นายไพฑูรย์ อินทศิลา กล่าวว่า ในส่วนแรกเป็นส่วนของฐานเทียนกว้างด้านละ 1.60 เมตร ซึ่งได้เทหล่อและแกะสลักที่บ้าน “ช่างน้อย คลองห้วย” มาตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2556 ด้านล่างเป็นฐานน่องสิงห์ รอบฐานเป็นลายดอกผักกูด โป่งพระบรมธาตุเจดีย์ หรือระฆังคว่ำ ต่อด้วยรูปซุ้มเรือนแก้ว 4 ด้าน
โดยมีองค์พระบรมธาตุอยู่ภายในซุ่มทั้ง 4 ด้าน น้ำหนักฐานต้นเทียนประมาณ 700 กิโลกรัมได้แกะสลักเสร็จแล้วจะใช้รถเครนยกมาที่มณฑลพิธีหน้า อบจ.นครศรีธรรมราช เพื่อประกอบเข้ากับต้นเทียนพรรษายักษ์ เมื่อรวมทั้ง 2 ส่วนแล้วต้นเทียนพรรษายักษ์ต้นนี้จะมีน้ำหนักร่วม 1 ตัน
“และนำขึ้นประดิษฐานบนรถยนต์แห่ไปร่วมในพิธีหล่อเทียนพรรษาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในวันที่ 19 ก.ค. 2556 หลังจากนั้นจะทำการสมโภชเทียนพรรษายักษ์เล่มดังกล่าวอีก 2 ครั้งในคืนวันที่ 21 ก.ค.2556 ที่กลุ่มอนุรักษ์ประเพณีคลองห้วย-โพธิ์เสด็จ เชิงสะพานคลองห้วย ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และสมโภชครั้งที่ 3 ในคืนวันที่ 22 ก.ค. 2556 ที่วัดโพธิ์เสด็จ หลังจากนั้นในวันที่ 23 ก.ค.2556 ซึ่งตรงกับวันเข้าพรรษาจะนำเทียนพรรษายักษ์เล่มดังกล่าวไปถวายวัดโพธิ์เสด็จ ทำการจุดบูชาพระรัตนตรัยตลอดช่วงเข้าพรรษาในปะ 2556 ต่อไป” นายไพฑูรย์ กล่าวในที่สุด