กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเกี่ยวกับพฤติกรรมและการกระทำโดยมิชอบของพระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ซึ่งลงพื้นที่ จ.อุลบราชธานี เพื่อตรวจสอบรถยนต์ที่อยู่ในความครอบครองของพระวิรพล โดยข้อมูลจากศูนย์เบนซ์อุบลราชธานี พบข้อมูลพระวิรพลใช้เงินสดซื้อรถเบนซ์ จำนวน 22 คัน รวมเป็นเงินกว่า 95 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มี 21 คัน เป็นชื่อของพระวิรพล ส่วนอีก 1 คัน เป็นชื่อของนายพรรณ์แสง ชูมัง ลูกศิษย์พระ โดยเป็นรถเบนซ์รุ่น S 300 ราคา 7.59 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอจะสอบสวนขยายผลว่ามีการนำไปฟอกเงินหรือนำไปมอบให้ใครหรือไม่ นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลการตรวจสอบภาพถ่ายพระนอนร่วมหมอนกับบุคคลอื่น พบว่าไม่ใช่ภาพที่มีการตัดต่อหรือตกแต่ง แก้ไข แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นการนอนอยู่กับผู้หญิงหรือผู้ชาย
ว่าจะนำข้อมูลลับเกี่ยวกับพระวิรพลมามอบให้ดีเอสไอเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่ามีลูกศิษย์ของพระวิรพลบางรายพยายามเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน ดังนั้นดีเอสไอจะจับตาคนกลุ่มนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำการใดๆ ที่ส่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ หากพบจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดด้าน
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาดีเอสไอร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และสำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.) ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเพื่อขอตรวจดีเอ็นเอเด็กชายอายุ 11 ขวบที่อ้างว่าเป็นบุตรของพระวิรพล ทั้งนี้แม้เด็กจะยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ แต่พ่อและแม่ของพระวิรพล ขณะนี้ได้รับรายงานจากในพื้นที่ว่ายังไม่สามารถติดต่อคนในบ้านได้ ทำให้ต้องใช้วิธีในการพยายามเข้าติดต่อคนในบ้านให้ได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้มีการพิสูจน์ดีเอ็นเอให้สำเร็จ โดยคาดว่าจะดำเนินการให้ตรวจสอบได้ภายใน 2 วัน