“นาทีชีวิตสุดท้าย”วอนผู้บริจาคตับช่วยเหลือมารดาไม่เกินเย็นนี้

ลูกสาวข้าราชการบำนาญอดีตเจ้าหน้าที่กรมชลฯ วอนผู้ใจบุญเมตตาเสียสละบริจาคตับให้แม่วัย 68 ที่ป่วยเป็นเนื้องอกตับนอนรอความหวังเปลี่ยนถ่ายตับอยู่ในห้องผ่าตัด รพ.จุฬาฯ ชี้นาทีชีวิตไม่เกินเย็นนี้จะเข้าขั้นวิกฤติสุดท้าย

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์”ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือในนาทีวิกฤติจาก น.ส.วรรศริยา ศิริเอี้ยวพิกูล หรือเปิ้ล

กล่าวว่า ขณะนี้ นางประทิน ศิริเอี้ยวพิกูล อายุ 68 ปี มารดาซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ป่วยเป็นเนื้องอกตับและตับแข็ง นอนอยู่ในห้องผ่าตัด ชั้น 2 ตึกสิรินธร รพ.จุฬาฯ โดยมีอาการน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากต้องเปลี่ยนตับ แต่ปรากฏว่ายังไม่มีตับที่เข้ากันได้ จึงยังผ่าตัดเปลี่ยนตับไม่ได้

น.ส.วรรศริยา กล่าวว่า มารดาเป็นข้าราชการบำนาญ หลังจากป่วยเป็นเนื้องอกตับและตับแข็ง

ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง จนอาการทรุดลงเรื่อยๆ ต่อมาแพทย์ได้แจ้งว่ามารดาต้องผ่าตัดเปลี่ยนตับเท่านั้น จึงจะสามารถยื้อชีวิตได้ กระทั่งวันนี้ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อมาว่า มีผู้ใจบุญเสียสละบริจาคตับมาให้แล้ว รวมทั้งได้ตรวจสอบแล้วด้วยว่าเป็นตับลักษณะที่ใส่ทดแทนกันได้ ด้วยความดีใจจึงพามารดามาที่ รพ.จุฬาฯ ทันที จากนั้นทีมแพทย์ได้ผ่าตัดนำตับของมารดาออกไป ก่อนจะนำตับของผู้บริจาคมาใส่ให้แทน แต่เคราะห์ร้ายยังไม่หมดแค่นั้น เนื่องจากตับของผู้บริจาค พอใส่เข้าในตัวของมารดากลับไม่ทำงานอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนร่างกายมีปฏิกิริยาไปในด้านลบ ทีมแพทย์จึงต้องนำตับอันใหม่ออกมาจากตัวมารดาก่อน ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีตับใส่อยู่ในตัวมารดาเลย

“เราไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรในการยื้อชีวิตแม่ เพราะรู้มาว่าถ้ายังไม่มีผู้เสียสละรายใดยอมบริจาคตับมาให้ก่อนเย็นนี้ แม่จะมีอาการน่าเป็นห่วงอย่างถึงที่สุดจนถึงขั้นวิกฤติสุดท้ายของชีวิต เป็นนาทีชีวิตอย่างแท้จริง จึงขอวิงวอนผู้ที่อ่านข้อมูลและมีจิตเมตตาช่วยประสานหรือติดต่อหาผู้บริจาคตับมาช่วยเหลือแม่ด้วย แม้รู้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ยากจะทำได้ แต่ก็จะรอและสู้ต่อไปตราบที่ยังมีความหวังอยู่ ซึ่งผู้ที่อยากช่วยเหลือหรืออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมให้โทรได้ที่เบอร์ 081-849-3601 ” ผู้รอปาฏิหาริย์ กล่าวทั้งน้ำตา.