‘เทพเทือก’ทำบุญวันเกิดครบ 64 ปี ลั่นขอถวายชีวิตสถาบัน-บ้านเมือง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ‘เทพเทือก’ทำบุญวันเกิดครบ 64 ปี ลั่นขอถวายชีวิตสถาบัน-บ้านเมือง
ภาพจาก มติิชน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ศาลา 100 ปี วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จังหวัดนนทบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศอฉ. พร้อมภริยา บุตรชายและบุตรสาว ทำบุญเลี้ยงภัตตาหารพระเพล เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 64 ปี โดยมีแกนนำและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงานคับคั่ง อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา นายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึง พร้อมมอบแจกันช่อกุหลาบสีแดงอวยพรวันเกิด โดยขอให้นายสุเทพมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งนายสุเทพ กล่าวขอบคุณ ซึ่งทั้งคู่พากันหัวเราะ และพากันไปร่วมทำบุญ
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงคลิปในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กที่เป็นเสียงการสนทนาของบุคคล 2 คน ที่อ้างว่า เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลคนหนึ่งพูดกับคนที่อยู่ต่างประเทศ ว่า ตนไม่ได้ติดตามอย่างละเอียด เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาติดรายการทอล์กโชว์ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเช้าที่ผ่านมาได้อ่านในหนังสือพิมพ์บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าความถูกต้องตรงตามที่เป็นคลิปหรือไม่ ถ้าคลิปนั้นเป็นจริงคนพูดสองท่านเป็นจริงตามที่ปรากฏ ก็น่ากังวลใจ แสดงว่ามีคนที่อยู่ต่างประเทศเข้ามามีอิทธิพลบงการการบริหารราชการแผ่นดินของบ้านเมืองเรา แม้กระทั่งการโยกย้ายแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหลาย หรือการออกกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความไม่เหมาะสม ตนคิดว่าตัวเองสามารถเป็นอะไรก็ได้ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นจึงน่ากังวลหากเป็นจริง ซึ่งก็ต้องตรวจสอบกันต่อไปก่อนที่จะพูดต่อ
“ผมอยากจะเรียนว่า ขอให้ใครก็ตามที่หลงผิดคิดว่าประเทศไทยเป็นสมบัติส่วนตัวของครอบครัว หรือเป็นบริษัทของครอบครัวตัวเองที่จะจัดการทำอะไรก็ได้ ผมขอเรียนให้ทราบว่า คนไทยไม่ใช่ลูกจ้างของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง คนไทยเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน และขอได้โปรดเลิกล้มความคิดที่จะเข้ามาเป็นผู้มีอำนาจเหนือชีวิตคนไทยทั้งหลาย เลิกล้มความคิดที่จะมาบงการประเทศไทย คนไทยคิดอ่านเองเป็นและเราจะดูแลบริหารจัดการบ้านเมืองของเราเองได้ ก็เรียนไว้เท่านั้น” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าคนที่อยู่ต่างประเทศจะมั่นใจในอำนาจที่มีในมือว่าจะสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง นายสุเทพ กล่าวว่า ฟังดูแล้วน่าเกลียดมาก เช่นว่าจะเสนอเป็นพ.ร.ก.ไม่ต้องการเสนอเป็นพ.ร.บ.นี่ยังไม่พูดถึงเนื้อหา ว่าทำอย่างนี้ เลวร้ายมาก ดูถูก ดูหมิ่นประชาชน ดูหมิ่นตัวแทนประชาชน และไม่เห็นกลไกกติกาของบ้านเมืองอยู่ในสายตา ไม่เคารพอะไรทั้งสิ้น เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน เราคงรับไม่ได้ หากมีใครบังอาจ หรือรัฐบาลนี้บังอาจออกพ.ร.ก.เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ตนคิดว่าประชาชนทั้งประเทศจะลุกฮือขึ้น
เมื่อถามว่า มองเรื่องนี้อย่างไรในฐานะที่เป็นคนของประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนประกาศศึกนานแล้วว่า เราจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านเมืองของเรา
เมื่อถามว่า ที่ท่านเคยบอกว่า หากถึงจุดหนึ่งที่หากไม่สามารถสู้กันในสภาได้แล้วต้องออกมาสู้นอกสภาพรก.นี้เป็นเงื่อนไขนั้นหรือไม่ ที่ทำให้ออกมาสู้นอกสภาแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่า รายละเอียดในพ.ร.ก.เป็นอย่างไร แต่ถ้าเนื้อหาในพ.ร.ก.นั้น คือสิ่งที่คนไทยทั้งหลายและพวกตนไม่พอใจ ตนจะออกมาต่อสู้
เมื่อถามว่า หากเนื้อหาดังกล่าวเหมือนพ.ร.บ.สุดซอยของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คิดว่าคนไทยและตัวท่านเองจะรับได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนรับไม่ได้ การสู้นอกสภานั้นเราจะสู้ตามกฎหมาย สู้โดยสันติวิธี แต่ว่าต้องสู้กันอย่างขนานใหญ่ทำทุกวิถีทาง ถ้าจะออกจากส.ส.หรือไม่ ก็ต้องดูตามสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า วันนี้ถ้าดูจากสถานการณ์แล้วการเมืองมันกำลังพัฒนาไปเรื่อย ดูแล้วจะไปสู่จุดไหน อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะไปสู่จุดใดก็ตาม แต่ในที่สุดเราจะต้องทำให้ประเทศกลับสู่ความสงบสุข ปราศจากอิทธิพล อำนาจมืดทั้งหลาย ปราศจากการกระทำที่ชั่วร้ายไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกา ให้อยู่ภายใต้กฎกติกาที่เป็นสากล และเพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งหมด
เมื่อถามว่า ในขณะที่มีอำนาจอยู่ในมือและควบคุมกลไกทั้งหมดคิดว่าประชาชนจะสู้ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผู้มีอำนาจทั่วโลกที่ถูกโค่นล้มก็ด้วยความหลงผิด เข้าใจผิด คนที่กำลังยโสอวดดีคิดว่ามีอิทธิพลเหนือคนไทยทั้งหมดก็อาจจะได้บทเรียนที่สำคัญ
เมื่อถามว่า ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย คิดว่าสิ่งเหล่านี้ควรจะให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้เรียนรู้เพื่อที่จะตอบแทนบ้านเมืองอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า คนบางคนคงยากที่จะเรียนรู้อะไรแล้ว เพราะว่าเลิงอำนาจ ลำพองในอำนาจอิทธิพลของตัวเองไปมาก แต่ว่าถ้ามีสติได้ก็จะรู้ว่านอกจากตัวเองจะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้วลูกหลานก็จะลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าอะไรจะหยุดพ.ต.ท.ทักษิณได้ นายสุเทพ กล่าวว่า คนมีสติ ที่เป็นญาติพี่น้องก็ควรจะไปตักเตือน ส่วนญาติพี่น้องจะมีสติอยู่หรือไม่นั้น ก็ต้องดูกันต่อไป
เมื่อถามว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มีอำนาจสูงสุดของประเทศควรจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า พวกตนก็จะมีคำเตือนถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อน แต่ขณะนี้ยัง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดก่อน
เมื่อถามว่า ใครจะเป็นคนพิสูจน์เสียงคลิปของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม กับพ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพ กล่าวว่า เราไม่ทราบว่าจะไปพิสูจน์ด้วยวิธีการอย่างไรในทางวิทยาศาสตร์ แต่สิ่งหนึ่งที่จะพิสูจน์ได้ดีคือการกระทำ ถ้าหลังจากนี้มีการกระทำเป็นอย่างที่พูดในคลิปก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องพิสูจน์ ลุกขึ้นต่อต้านได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาในการพูดคุยกระทบกับความมั่นคงของประเทศหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กระทบมาก เพราะ 1.คนที่อยู่นอกประเทศไม่มีสิทธิ์ที่จะบงการความเป็นไปในประเทศไทย รัฐบาลต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นอิสระ ตัดสินใจอะไรได้ 2.คนที่อยู่นอกประเทศไม่มีอำนาจมามีอิทธิพลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการไทย 3.คนที่อยู่นอกประเทศไม่มีอำนาจสั่งการว่า ประเทศไทยต้องมีกฎหมายประเภทนั้นประเภทนี้ ด้วยวิธีการอย่างนั้น อย่างนี้ 4.ขั้นตอนที่พูดกันในคลิปว่าไปหลอกสภาความมั่นคง หลอกกลาโหม หลอกประชาชน มันชั่วร้ายมาก ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เรื่องอย่างนี้ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจใน ผบ.เหล่าทัพแค่ไหนว่าจะเป็นหลักให้กับบ้านเมือง แทนที่จะตอบสนองการเมือง อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าข้าราชการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่ดี สำนึกว่าตนเองเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นข้าราชการของประชาชน ไม่ใช่ข้าทาสบริวารของครอบครัวใด ครอบครัวหนึ่ง ตนยังเชื่อมั่นว่ายังมีอยู่
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าข้อความในคลิปกระทบกับความมั่นคงของประเทศนั้น นายกฯในฐานะรมว.กลาโหม เป็น ผอ.กรอ.มน. ควรจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯ ควรจะตรวจสอบเรื่องนี้แน่นอน และควรจะออกมาพูดกับประชาชนให้เข้าใจว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง และจะดำเนินการอย่างไร หากไม่ทำนายกฯก็จะเสียหาย
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ถ้านายกฯไม่ตรวจสอบ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปพูดก่อนล่วงหน้า เดี๋ยวจะหาว่าฝ่ายค้านข่มขู่ แต่ว่าเราจะบอกให้ฟังว่า นายกฯ ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องในวันเกิดอยากได้อะไร ฝากอะไรถึงใครหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ฝากอะไร ตนก็ทำบุญเฉพาะของตนซึ่งทำเป็นประจำทุกปี ไม่ทำที่วัดชลประทานฯ ก็วัดสวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี เรื่องของใครก็ของมัน เรื่องบุญเรื่องกรรมก็แล้วแต่ใครทำ
“วันนี้ผมย่างเข้าอายุ 65 ปี แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็ขอถวายให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ และบ้านเมือง ปีนี้ก็คงจะหนักพอๆ กับที่คนไทยจะต้องเผชิญกัน แต่ผมคิดว่า เรามีอายุมาขนาดนี้ ได้รับประโยชน์จากประเทศชาติบ้านเมืองมามาก เรามีหน้าที่ถวายความจงรักภักดีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดูแลประเทศชาติให้สุดกำลัง เพราะว่าลูกหลานวันข้างหน้าจะได้เติบโตอย่างคนไทยที่มีเสรี มีชีวิตอย่างเป็นสุขในระบอบประชาธิปไตย” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า จะเป็นปีที่พลิกชีวิตจากคนที่เป็นรัฐมนตรีไปเป็นแกนนำม็อบหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทำใจมาแล้ว ทำอะไรได้ก็ต้องทำ เพราะว่าทำหน้าที่คนไทย ไม่ติดใจอะไร