กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
สำนักพุทธจ่อสอบบัญชีวัดสุนันท์ หลัง อดีตพระมิตซูโอะลาสิกขา
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนารามและผู้ก่อตั้งมูลนิธิมายาโคตมี ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ลาสิกขาบท
เดินทางกลับบ้านเกิดประเทศญี่ปุ่น สร้างความกังขาให้กับสังคมและลูกศิษย์ทั่วประเทศว่าเบื้องหลังแท้จริงมีสาเหตุมาจากเรื่องใด ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม ออกแถลงการณ์ ระบุว่า พระอาจารย์มิตซูโอะกลับไปประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นบ้านเกิดจริง แต่จะยังคงทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในฐานะของฆราวาสต่อไป ส่วนงานของมูลนิธิ และโครงการต่างๆ ที่ได้เริ่มไว้ คณะทำงานจะยังคงดำเนินงานไปตามปกติ เนื่องจากพระอาจารย์ได้วางรากฐานไว้แข็งแรงแล้ว
เดินทางกลับบ้านเกิดประเทศญี่ปุ่น สร้างความกังขาให้กับสังคมและลูกศิษย์ทั่วประเทศว่าเบื้องหลังแท้จริงมีสาเหตุมาจากเรื่องใด ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม ออกแถลงการณ์ ระบุว่า พระอาจารย์มิตซูโอะกลับไปประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นบ้านเกิดจริง แต่จะยังคงทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในฐานะของฆราวาสต่อไป ส่วนงานของมูลนิธิ และโครงการต่างๆ ที่ได้เริ่มไว้ คณะทำงานจะยังคงดำเนินงานไปตามปกติ เนื่องจากพระอาจารย์ได้วางรากฐานไว้แข็งแรงแล้ว
ด้านนายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จังหวัดกาญจนบุรี คาดว่า สาเหตุของการลาสิกขา อาจมาจากโรคเบาหวานที่เป็นมานานกว่า 2 ปี ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง ไม่สามารถปฏิบัติกิจทางสงฆ์ได้เป็นปกติ จึงตัดสินใจลาสิกขาบท ขณะที่บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเงียบมีประชาชนไปปฏิบัติธรรมไม่มาก เนื่องจากเป็นวันธรรมดา อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ว่าอาจมีปัญหาเรื่องทรัพย์สิน หรือผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่แม่ชีพิมพ์พันธ์ ผู้ดูแลศาลารับญาติโยมวัดสุนันทวนาราม กล่าวว่า พระอาจารย์ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีภาวะน้ำตาลสูงมาก โดยก่อนกลับไปต่างประเทศ พระอาจารย์เดินทางมาที่วัดแห่งนี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเปิดการปฏิบัติธรรมแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง จากนั้นออกจากวัดไปในช่วงค่ำ แล้วเดินทางไปต่างประเทศทันที แต่พระอาจารย์ระบุว่ายังไม่ได้ทิ้งวัดแห่งนี้ โดยเมื่อรักษาหายแล้วจะเดินทางกลับมา ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้บอกลูกศิษย์ เพราะเกรงจะเป็นห่วง
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ในหน้าเว็บเฟซบุ๊กของนางสุทธิรัตน์ มุตตามระ หรือ “แอน” (Suttirat Muttamara) นักธุรกิจหญิงในวงสังคมชื่อดังของเมืองไทย นางสิทธิรัตน์ได้โพสต์ภาพถ่ายคู่กับพระมิตซูโอะ ซึ่งสวมหมวกและแต่งกายในชุดนักท่องเที่ยว โดยทั้งสองคนกอดกัน นั่งซบกัน และถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนิทสนมใกล้ชิด บนเสื้อของพระมิตซูโอะสกรีนชื่อประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนใต้ภาพบางภาพมีตัวอักษรกราฟฟิกเขียนว่าไปเที่ยวที่ภูเขาตาอาล ในประเทศฟิลิปปินส์
นอกจากนั้น นางสุทธิรัตน์ยังโพสต์ข้อความระบุว่า "ขอบคุณสำหรับผู้ที่ไม่หวังดีต่อดิฉัน ที่กล่าวหาว่าดิฉันวางยา Blackmail อาจารย์มิตซูโอะ โดยมีเจตนาทำให้ดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงทำให้อาจารย์มิตซูโอะผู้ที่มีเมตตาและความรักต่อดิฉัน จะต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของดิฉัน ด้วยการเปิดเผยความจริงต่อสังคมเร็วๆนี้ ขอบคุณอีกครั้ง"
จากนั้น มีเพื่อนในเฟซบุ๊กของนางสุทธิรัตน์เข้ามาเขียนข้อความให้กำลังใจ อาทิ “เป็นกำลังใจให้นะค่ะคุณแอน” และ “แผ่เมตตากรวดน้ำให้เลยค่ะ...ขอให้ทุกอย่างไม่ดีผ่านไปเร็วๆ นะคะ” ขณะที่นางสุทธิรัตน์เขียนตอบว่า “ขอบคุณมากนะคะ”
สำหรับนางสุทธิรัตน์ เป็นผู้บริหารธุรกิจคิว เมดิคอล เซ็นเตอร์ เขียนประวัติตัวเองในเฟซบุ๊กว่า จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมฯ จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระดับอุดมศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้านพระมิตซูโอะ คเวสโก เกิดที่จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันจันทร์ที่ 28 พ.ค. 2494 จบการศึกษาปวช. สาขาเคมี ณ จังหวัดโมริโอก้า ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาเดินทางเข้ามาศึกษาธรรมะในประเทศไทย กระทั่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
พ.ศ.2514 เมื่อพระอาจารย์มิตซูโอะ อายุ 20 ปี เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เพื่อแสวงหาสัจธรรมของชีวิต โดยได้ท่องเที่ยวศึกษาชีวิต สังคม วัฒนธรรมของ ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป เป็นเวลา 2 ปีเศษ ต่อมา พ.ศ. 2517 หลังจากเดินทางถึงพุทธคยา ประเทศอินเดีย ท่านพบว่า “นี่คือสิ่งที่แสวงหาสัจจะความจริงอยู่ภายในกายกับใจของเรานี้เอง ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ใจทุกคน ทุกชีวิตสามารถพ้นทุกข์ได้” จึงหยุดการแสวงหา พร้อมเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเบญจมบพิตร จังหวัดกรุงเทพมหานคร และอุปสมบทเมื่อเดือนมิ.ย. 2518 ที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
ล่าสุด วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการผู้จัดการบลูสกายแชนเนล ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Vittayen Muttamara โดยยอมรับว่าเป็นน้องชายของ สุทธิรัตน์ มุตตามระ สตรีที่ถ่ายภาพคู่กับอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ พร้อมกับยืนยันว่า พี่สาวเป็นคนรู้ใจของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะจริง โดยมีข้อความระบุดังนี้
“จากกรณีที่มีภาพอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะและ สุภาพสตรีคนหนึ่งปรากฏและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอยู่ในขณะนี้ผมได้รับคำถาม จำนวนมากว่าสตรีท่านนี้เป็นอะไรกับผมผมจึงขอตอบตรง ๆ เพื่อความชัดเจนตรงนี้ว่าเป็น “พี่สาว” ผมครับ
ทั้งพี่สาวผมและอาจารย์มิตซูโอะทั้งสองเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อาจารย์ท่านก็ศึกษาธรรมะปฏิบัติมานานไม่เคยมีเรื่องมัวหมอง ตอนนี้ท่านก็ลาสิกขาออกไปเป็นฆราวาสแล้ว ผมเชื่อว่าท่านมีสติรู้ว่าท่านทำอะไรอยู่และกำลังจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
ผม เชื่อว่าคนสองคนที่ตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้คนทั้งสองต้องทำบุญทำ กรรมร่วมชาติกันมามากอย่างที่เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาสและการตัดสินใจของคน ทั้งสองก็อยู่ในกฏเกณฑ์กติกาทั้งทางโลกและทางธรรม
หากจะถามผมว่าอนาคตของทั้งสองจะอยู่กันที่ไหนอย่างไรผมตอบตรงๆ ว่าไม่ทราบครับ เพราะถึงเราจะเป็นพี่น้องกันเราเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน เขาจะอยู่เมืองนอกหรือเมืองไทยคือการตัดสินใจของเขาทั้งสองครับ
ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรผมจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง”
ล่าสุด วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการผู้จัดการบลูสกายแชนเนล ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Vittayen Muttamara โดยยอมรับว่าเป็นน้องชายของ สุทธิรัตน์ มุตตามระ สตรีที่ถ่ายภาพคู่กับอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ พร้อมกับยืนยันว่า พี่สาวเป็นคนรู้ใจของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะจริง โดยมีข้อความระบุดังนี้
“จากกรณีที่มีภาพอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะและ สุภาพสตรีคนหนึ่งปรากฏและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอยู่ในขณะนี้ผมได้รับคำถาม จำนวนมากว่าสตรีท่านนี้เป็นอะไรกับผมผมจึงขอตอบตรง ๆ เพื่อความชัดเจนตรงนี้ว่าเป็น “พี่สาว” ผมครับ
ทั้งพี่สาวผมและอาจารย์มิตซูโอะทั้งสองเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อาจารย์ท่านก็ศึกษาธรรมะปฏิบัติมานานไม่เคยมีเรื่องมัวหมอง ตอนนี้ท่านก็ลาสิกขาออกไปเป็นฆราวาสแล้ว ผมเชื่อว่าท่านมีสติรู้ว่าท่านทำอะไรอยู่และกำลังจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
ผม เชื่อว่าคนสองคนที่ตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้คนทั้งสองต้องทำบุญทำ กรรมร่วมชาติกันมามากอย่างที่เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาสและการตัดสินใจของคน ทั้งสองก็อยู่ในกฏเกณฑ์กติกาทั้งทางโลกและทางธรรม
หากจะถามผมว่าอนาคตของทั้งสองจะอยู่กันที่ไหนอย่างไรผมตอบตรงๆ ว่าไม่ทราบครับ เพราะถึงเราจะเป็นพี่น้องกันเราเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน เขาจะอยู่เมืองนอกหรือเมืองไทยคือการตัดสินใจของเขาทั้งสองครับ
ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรผมจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง”
วันเดียวกัน นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหน้าที่รับบัญชาจากคณะสงฆ์เพื่อนำไปปฏิบัติตามความเหมาะสม โดยตั้งแต่อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนารามได้ลาสิกขาบท ทางคณะสงฆ์โดยเจ้าคณะตำบลไทรโยคได้พิจารณาให้พระอาจารย์หนูพรม เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ส่วนในเรื่องการเงินก็เป็นหน้าที่คณะกรรมการวัดป่าสนันทวนารามเป็นกลุ่มะร่วมพิจารณา โดยหลังจากที่มีภาพข่าวของอดีตเจ้าอาวาสกับผู้หญิงเผยแพร่ทางสื่อ ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันพิจารณาอย่างรอบคอบ
นายฉัตรชัย ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าการที่พระลาสิกขาออกไปจากสมณเพศ แล้วไปใช้ชีวิตเป็นประชาชนปกติน่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่ในส่วนของความสงสัยจากสังคมก็ต้องชี้แจง โดยเบื้องต้นจะเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องบัญชีค่าใช้จ่ายที่วัดได้รายงานมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตามปกติทุกปีว่าในปัจจุบันเรื่องการเงินของวัดเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของมูลนิธิฯ เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องไปพิจารณากันเอง คงต้องขอเวลาในการดำเนินการพอสมควร แต่เราเชื่อว่าสามารถตรวจสอบได้ เพราะทุกอย่างการเบิกจ่ายเป็นไปในรูปของคณะกรรมการวัดเป็นผู้พิจารณาเวลาเบิกจ่าย ไม่ใช่เจ้าอาวาสจะสามารถเบิกจ่ายได้โดยลำพัง เชื่อทุกอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ในส่วนของเรื่องนอกวัด ตนไม่ก้าวล่วง ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ใครเกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงสังคมต่อไป
เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ในเฟซบุ๊กและเว็บบอร์ดชื่อดังของไทย มีคนโพสต์เผยแพร่ภาพถ่ายขณะอดีตพระมิตซูโอะ และนางสุทธิรัตน์ ไปจดทะเบียนสมรสกันแล้วที่หน่วยราชการ จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยฝ่ายหญิงสวมชุดสีชมพู ใบหน้าสดใส ส่วนอดีตพระดังสวมเสื้อสีขาว
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
