ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมากราบไหว้ลูกนิมิตอายุ 117 ปี ภายในโบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2492 โดยลูกนิมิตที่พบนี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุตครึ่ง โดยด้านหนึ่งของลูกนิมิตลูกนี้พบมีรอยร้าวคล้ายหน้าคนเห็นเด่นชัดเจน ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็นและผู้ที่มากราบไหว้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตรงกลางโบสถ์หลังเก่านี้ยังมีบ่อน้ำผุดขึ้นมาอีก 1 บ่อ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
โบสถ์หลังนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2492 เป็นโบสถ์หลังที่ 2 แทนโบสถ์หลังแรกที่เก่ากว่าและชำรุดทรุดโทรม ซึ่งโบสถ์หลังแรกนั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยหลวงปู่อุ่น ปุณสิริ หรือพระครูศรีสมุทรเขต อดีตเจ้าอาวาสวัดบางขุด อดีตเกจิชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร ผู้สร้างพระนางพญากลีบบัวเนื้อผงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก โดยในคราวโบสถ์หลังแรกนั้นก็มีหลวงปู่รุ่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ พระเกจิชื่อดังอีกรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร มาเป็นผู้ตัดหวายลูกนิมิตที่พบนี้ จากนั้นก็ได้นำลูกนิมิตฝังลงไปในดิน เป็นการกระทำตามพิธีกรรมทางศาสนา
และต่อมาทางวัดพร้อมด้วยคณะกรรมการและพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา เห็นว่าโบสถ์หลังนี้ชำรุดทรุดโทรมลงและคับแคบไม่สะดวกต่อการปฏิบัติภาระกิจของสงฆ์ จึงได้มีการสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นอีกหลังในที่ใหม่แล้วเสร็จในปี 2546 จากนั้นก็ได้อัญเชิญพระประทานในโบสถ์หลังนี้ ไปประดิษฐานอยู่ที่โบสถ์หลังใหม่ กระทั่งมีพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธารายหนึ่งมาเห็นโบสถ์เก่าหรือโบสถ์หลังนี้ไม่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ จึงได้ขอสร้างพระพุทธโสธรประดิษฐานไว้ภายใน หน้าตักกว้าง 4 เมตร สูง 7 เมตร
ซึ่งก็ทำให้พบลูกนิมิตเอกที่มีรอยลักษณะคล้ายใบหน้าคนลูกนี้อยู่กลางโบสถ์ และยังพบบ่อน้ำอีกด้วย เมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็พากันมากราบไหว้บูชาและตักน้ำนี้ไปดื่มหรืออาบเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยให้หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และแก้คุณไสย์ล้างอาถรรพ์เนื่องจากผ่านพิธีกรรมต่างๆ มาอย่างช้านาน โดยผู้ที่มากราบไว้นั้นทางวัดก็มีการจัดดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้กราบไหว้บูชาและมีตู้ไว้ให้ใส่ทำบุญตามศรัทธา