สุดรันทดพ่อขังลูกสาวบนเกาะนานกว่า 20 ปี

วันนี้ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุรศักดิ์ มณทิราช อายุ 37 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง มีชายชราต้องทนเลี้ยงลูกสาวที่ป่วยทางจิตมานานกว่า 20 ปีด้วยวิธีการขุดคูน้ำล้อมรอบสวนมะพร้าวหลังบ้านจนกลายเป็นเกาะและปลูกกระท่อมให้อยู่ตามลำพัง 1 หลัง มีการทำรั้วลวดหนามกั้นล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ส่วนการให้อาหารแต่ละครั้งต้องใส่ถุงพลาสติกโยนข้ามรั้วและคูน้ำไปให้ เห็นสภาพแล้วน่าเวทนาไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย พ.ต.ท.เกรียงไกร โพธิ์ประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บ้านวิสัยเหนือ นายจัด สุจริต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา และ นายสุรศักดิ์ จึงเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง อยู่ติดถนนลาดยางสายทุ่งคาน้อย-ปากน้ำชุมพร ห่างหลังบ้านประมาณ 10 เมตรกลางสวนมะพร้าว พบกระท่อมก่อด้วยอิฐบล็อก ฝาและหลังคากั้นและมุงด้วยสังกะสี มีคูน้ำกว้าง 3 เมตร ลึก 2 เมตร ล้อมรอบกระท่อม และล้อมด้วยรั้วลวดหนามไว้อีกชั้นหนึ่ง

พบหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อนงค์ หรือ หีด วัฒนจิตต์ อายุ 39 ปี สภาพนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดแขนสาว เนื้อตัวสกปรก ไว้ผมยาวจับกันเป็นก้อนหนา ยืนพูดจาคนเดียว เมื่อเห็นผู้สื่อข่าว น.ส.อนงค์ ก็ร้องขอข้าวและขนมกิน อย่างน่าเวทนา
 

นายเฉียบ วัฒนจิตต์ อายุ 86 ปี บิดาของ น.ส.อนงค์ เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 7 คน ส่วน น.ส.อนงค์ เป็นบุตรคนที่ 3
 
เดิม น.ส.อนงค์ก็เหมือนคนปกติทั่วไป เรียนหนังสือจบชั้น ม.3 เมื่ออายุ 17 ปี ได้แต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่กับสามีที่ จ.สงขลาได้ประมาณ 5 เดือนก็แยกทางกันแล้วกลับมาอยู่กับตน จากนั้นก็เกิดอาการทางประสาท วันใดอากาศร้อน น.ส.อนงค์จะมีอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายสิ่งของ ทุบตีตนและชาวบ้านที่ผ่านไปมา ตนและญาติๆ เคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่หาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ตนไม่มีเงินแถมอายุก็มากแล้ว ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็แยกไปมีครอบครัวกันหมด ตนไม่อยากรบกวนใคร จึงจำเป็นต้องเลี้ยง น.ส.อนงค์ตามมีตามเกิดด้วยการขังให้อยู่บนเกาะ เพราะเกรงว่า น.ส.อนงค์ จะไปทำร้ายชาวบ้าน แม้จะรู้สึกสงสารลูก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร การให้อาหารแต่ละวันก็ต้องใช้วิธีใส่ถุงพลาสติกโยนข้ามไปให้เพราะกลัวถูกทำร้าย
 

นายจัด สุจริต อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทุกคนทราบดี แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร

ตนเคยแจ้งเรื่องให้อำเภอเมืองชุมพรทราบแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป ดูจากสภาพความเป็นอยู่ของ น.ส.อนงค์ตนเห็นว่าไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังกรง รู้สึกสงสารจึงขอให้ นายสุรศักดิ์ มณทิราช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบ เผื่อจะมีหน่วยงานไหน หรือคนใจบุญ เข้าไปช่วยเหลือ น.ส.อนงค์ พาไปรักษาให้ถูกหลักวิธี สภาพความเป็นอยู่ก็น่าจะดีกว่านี้