สธ.เร่งผลักดันกม.สุขภาพจิต คุ้มครองผู้ป่วยรักษาจนหาย

"ร่างกฏหมายสุขภาพจิต"


นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าววันนี้ (13 มี.ค.) ว่า ขณะนี้สังคมไทยกำลังประสบปัญหาขาดการยอมรับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต หรือผู้ป่วยทางจิต ยังถูกมองว่าเป็นคนบ้า ไม่มองว่าเป็นคนป่วยเหมือนโรคทางกาย จึงทำให้ผู้ป่วยทางจิตจำนวนหนึ่งขาดการเข้าถึงบริการบำบัดรักษาฟื้นฟู บางคนต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนตามยถากรรม บทเรียนจากคดีของ นพ.ประกิตเผ่า เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า สังคมไทยยังขาดความเข้าใจเรื่องผู้ป่วยโรคจิต มีความแตกต่างจากผู้ป่วยโรคทางกายอย่างมาก และมีผลในการกำหนดพฤติกรรมแสดงออกให้เห็น ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์อาการผิดปกติจากจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค และให้การรักษาที่ถูกต้อง ทั้งการควบคุมอาการด้วยยา ควบคู่การบำบัดพฤติกรรม

นพ.มงคล กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิต ดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายสุขภาพจิตของประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว จุดมุ่งหมายของกฎหมายฉบับนี้เพื่อปกป้องคุ้มครอง ส่งเสริมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของประชาชน เสริมสร้างและคุ้มครองสิทธิผู้ที่มีอาการผิดปกติทางจิตให้ได้รับการบำบัดรักษาให้หายหรือดีขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ป่วยจิตเวช

ผลสำรวจสุขภาพจิตประชาชนทั่วประเทศครั้งล่าสุด เมื่อ พ.ศ.2546 พบประชาชนมีปัญหาสุขภาพจิตร้อยละ 20 หรือกว่า 12 ล้านคน ที่พบบ่อยคือ ความเครียด ซึ่งจะต้องได้รับคำปรึกษา เพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดความเครียดสะสมจนพัฒนาไปสู่โรคทางจิตได้ ซึ่งสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตและผู้ป่วยทางจิตกำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาสังคมและประเทศที่เน้นด้านวัตถุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว และว่า องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคจิตมากถึง 450 ล้านคน และสนับสนุนให้ประเทศทั่วโลก มีกฎหมายสุขภาพจิตบังคับใช้ภายใน 5 ปีนี้ เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิผู้ป่วย ลดการรังเกียจผู้ป่วย

"เรียนรู้จากคดีนี้"


ด้านนพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า คดี นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดัง ทำให้สังคมหันมาสนใจงานด้านสุขภาพจิตมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จิตแพทย์ของกรมสุขภาพจิต ฝึกความอดทน รู้ว่า มีกฎหมายที่เปิดโอกาสให้คนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ แค่เป็นผู้สงสัยก็สามารถเข้าร้องเรียนขอไต่สวนต่อศาลได้ ซึ่งอีก 2 ปี ตนจะเกษียณอายุราชการ ก็เพิ่งรู้ว่า มีช่องกฎหมายที่ให้สิทธิทำได้

รวมทั้งสังคมได้เรียนรู้กระบวนการทำงานของศาล ที่มีขั้นตอนวิธีการไต่สวนเป็นรูปแบบเฉพาะเพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคม สิ่งที่เกิดขึ้นทางกรมสุขภาพจิตจะให้ข้อมูลด้านจิตเวชกับประชาชนมากขึ้น โดยตนมีนโยบายให้เปิดโรงพยาบาลจิตเวชให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมแต่ต้องไม่กระทบกับสิทธิผู้ป่วย กรณีโรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่รับรักษา นพ.ประกิตเผ่า ให้จัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคจิตเวชชนิดต่าง ๆ ให้เครือข่ายญาติผู้ป่วยโรคจิตเวชทำกิจกรรมอย่างเข้มแข็งขึ้น ประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง

เราได้เรียนรู้มาจากกรณีนี้ การรักษาผู้ป่วยจิตเวช การที่ญาติพามาส่งรักษาอย่างเดียวจะพอหรือไม่ จะต้องมีเอกสารอะไรบ้าง อาการของคนไข้ต้องเป็นอย่างไร เราต้องมีมาตรการอะไรอีกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก เพราะมีผลกระทบต่อครอบครัวของคนไข้มาก โดยเฉพาะกับภรรยาและลูก ๆ ทั้ง 2 คนที่ยังเล็กอยู่ นพ.ม.ล.สมชาย กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์