25 พ.ค.56 ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ หลังหลวงพ่อคูณมีอาการซึม มีไข้สูง และมีเสมหะ ติดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมกับฉีดยาปฎิชีวนะทางหลอดเลือดดำจนครบ 14 วัน และได้หยุดยาแล้ว ซึ่งคณะแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณเข้าพักรักษาอาการอาพาธที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8
โดยจัดคณะแพทย์ และพยาบาลคอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวภายหลังตรวจอาการว่า ภายหลังหยุดยาฆ่าเชื้อมา 1 สัปดาห์ ไข้ไม่มี อาการยังคล้ายเดิม รู้ตัว รู้เรื่อง แต่มีปัญหาเสลดเสมหะยังมีมากเหมือนเดิม ทำให้คณะแพทย์ต้องมีการปรับการพ่นยาขยายหลอดลม 3-4 ครั้ง เป็นช่วงๆไป เช้าพ่น กลางวันพ่น เย็นพ่น และบางครั้งพ่นตอนกลางคืน ส่วนยาละลายเสมหะให้ฉันวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ส่วนการทำระบบห้องปิดอากาศเป็นบวกสามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง เพราะอาการเสลดเสมหะมากสาเหตุเวลาท่านรวน
พอมีปัญหาการติดเชื้อจะทำให้ปอดรวนไปด้วย พอปอดรวนก็ทำให้เกิดภาวะเสลดเสมกหะมากขึ้นกว่าจะกลับคืนได้ ต้องใช้เวลาเป็นเดือนเหมือนกัน การรักษาก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปประคับประคอง เนื่องจากช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) เกิดฝนตกหนักประมาณ 1 ชม.ทำให้สภาพอากาศชื้น ลมเย็น
ต่อเนื่องจนถึงช่วงสายของวันนี้ จึงได้ประเมินอาการพร้อมกับกำชับให้แพทย์เวร พยาบาล และลูกศิษย์ใกล้ชิดเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องภาวะแทรกซ้อน หากมีอะไรผิดปรกติหรือมีไข้ให้รีบแจ้งคณะแพทย์และแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที ตอนนี้ที่เราทำได้มีการพ่นยาขยายหลอดลม ฉันยาละลายเสมหะ ล้างกระเพาะปัสสาวะ ตรวจหลอดลม และระบบทางเดินหายใจ และทางเดินปัสสาวะ
ซึ่งมีผลทำให้เสลดเสมหะยังมีอยู่เยอะต้องช่วยดูดเอาออกวันละ 2 ครั้ง ทำให้ท่านมีอาการอ่อนเพลีย ช่วงนี้คงต้องงดการออกจากห้องไว้ก่อน คงต้องดูสถานการณ์สภาพอากาศเป็นวันๆ ไป และให้ท่านทำกายภาพบำบัดปั่นจักรยานไฟฟ้าอยู่แต่ในห้อง และให้ท่านพักผ่อนมากๆ
โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยม และงดรับกิจนิมนต์อย่างเด็ดขาด ช่วง 2-3 วันมานี้ท่านยังไม่บ่นกลับวัดบ้านไร่ แต่เรื่องกลับวัดบ้านไร่น่าจะกลับได้ต้นเดือนมิถุนายนนี้ หรืออีกประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนอารมณ์ของท่านช่วงนี้เรียบๆ ถือว่าไม่แย่ พูดคุยได้ พูดหลอดล้อได้บ้างเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับซึมเงียบคิดถึงวัดบ้านไร่