ทิพาวดี ขอ30วัน-เปิดสไตล์ ทีไอทีวี

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย


คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการบริหารงานทีไอทีวีของกรมประชาสัมพันธ์ว่า ในสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมหารือ และรับฟังความเห็นจากกลุ่มต่างๆ ประกอบด้วย

1.กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อวิทยุโทรทัศน์
2.กลุ่มเอ็นจีโอ
3.กลุ่มนักวิชาการ และ
4.กลุ่มผู้รับผิดชอบ

เพื่อมาร่วมกันประมวลความคิดเห็นในเรื่องการบริหารคลื่นความถี่ยูเอชเอฟ


รูปแบบองค์กรของทีไอทีวี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการมีสื่อสาธารณะที่มีอิสระ ให้ความรู้ปัญญาแก่สังคม ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปส่งความคิดเห็นเรื่อง แนวทางการดำเนินการของทีไอทีวีมายัง www.1111.go.th หรือตู้ป.ณ.1111 ทำเนียบรัฐบาล คาดว่าภายใน 30 วันจะเห็นรูปแบบและแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนของทีไอทีวี

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้บริหารไอทีวียกเลิกสัญญาทุกอย่างกับผู้เช่ารายเดิมจะส่งผลกระทบต่อรัฐอย่างไร


คุณหญิงทิพาวดีกล่าวว่า การที่บริษัทไอทีวียกเลิกการเช่าสัญญาทุกอย่าง ทั้งสัญญาเช่าตึก สัญญาเช่าดาวเทียม ภายหลังถูกสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ยกเลิกสัญญาสัมปทาน ทำให้เกิดอุปสรรคมากในการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย และคำพิพากษาศาลปกครองที่จะให้ออกอากาศอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐต้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย


ขณะเดียวกันก็ต้องระวังความรู้สึกของประชาชนควบคู่ไปด้วย


ทั้งนี้ จะไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาลเดือนละ 90 ล้านบาท ที่เคยมีแนวคิดว่าจะนำมาใช้บริหารทีไอทีวีในช่วงต้น แต่รัฐจะใช้วิธีเปิดเจรจากับผู้ให้เช่ารายเดิมเพื่อขอเครดิตในการเช่าอุปกรณ์ต่างๆ ไปก่อน เพราะเป็นทางออกที่ดีสุดในเวลานี้

คุณหญิงทิพาวดีกล่าวว่า


จากการเจรจาทั้งผู้ให้เช่าอุปกรณ์ และสปอนเซอร์โฆษณาต่างๆ ก็เต็มใจที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในการประชุมครม.วันที่ 13 มี.ค.นี้ ทางสปน.จะรายงานรูปแบบการดำเนินงานของทีไอทีวี การฟ้องร้องผู้บริหารไอทีวีเพื่อเรียกค่าปรับ 1 แสนล้านบาท รวมถึงกรณีการยกเลิกสัญญาเช่าอุปกรณ์ทุกอย่างให้ครม.รับทราบและซักถาม เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สาธารณชนสนใจ ส่วนสัดส่วนรายการในการออกอากาศของทีไอทีวีนั้นจะมีรายการเนื้อหาสาระ 70 เปอร์เซ็นต์ และบันเทิง 30 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม

นายสุริยะใส กตะศิลา


เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีผู้บริหารบางคนให้ข่าวพาดพิงว่าเตรียมเปิดบริษัทด้านสื่อสารกับ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล อดีตพิธีกรไอทีวีว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการปล่อยข่าว เพื่อทำลายความชอบธรรมของน.ส.มัลลิกาที่ถอนตัวจากไอทีวีเพื่อเปิดทางให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วม สำหรับตนไม่เคยคิดทำธุรกิจกับใคร ตนรู้สึกผิดหวังผู้บริหารไอทีวีบางคนปั้นข่าวโดยไม่มีข้อเท็จจริงและหวังผลทางการเมือง พฤติกรรมแบบนี้ขาดมโนสำนึก


และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่สังคมไม่เห็นความเป็นมืออาชีพ หรือจิตวิญญาณความเป็นคนข่าว


ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ ส่วนเหตุที่รู้จักกับน.ส.มัลลิกา เนื่องจากเรียนด้วยกันที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และเป็นช่วงที่ไอทีวีถูกศาลปกครองมีคำสั่งให้จ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานกว่า 1 แสนล้านบาท น.ส.มัลลิกามาขอคำแนะนำ ซึ่งตนแนะนำไปว่าไอทีวีเกิดจากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เป็นของประชาชนเพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรเพื่อเอาคืนให้ประชาชน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์