สอบสวน น.ส.ทัตชญา ทราบว่า รู้จักชอบพอคบหากับนายณัฐพัชร์ หรือ บาส แฟนหนุ่มมานานกว่า 1 ปีแล้ว ต่อมานายณัฐพัชร์ มาหานางภาวนาซึ่งเป็นแม่ของตน พร้อมกับเอ่ยปากขอแต่งงานกับตน โดยเสนอให้สินสอดเป็นเงินสด 300,000 บาท ทองรูปพรรณหนัก 5 บาท ซึ่งแม่ตนก็ถามตนว่าตกลงแต่งงานกับนายณัฐพัชร์หรือไม่ ด้วยความรักตนจึงตกลงที่จะแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากับนายณัฐพัชร์ และตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานกันวันที่ 12 พ.ค. โดยช่วงเช้าจัดให้มีพิธีสงฆ์พร้อมรดน้ำสังข์ที่บ้านเลขที่ 164/18 ม.3 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางภาวนาซึ่งเป็นแม่ ส่วนตอนเย็นจัดให้มีงานกินเลี้ยงกันที่สวนอาหารบัวหลวง ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี โดยนายณัฐพัชร์แฟนหนุ่ม ขอให้นางภาวนาออกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานไปก่อน และจะใช้คืนในภายหลัง โดยนางภาวนาจ่ายเงินไปแล้ว 240,000 บาท
น.ส.ทัตชญา ให้การต่อว่า ในวันนี้ซึ่งเป็นวันงาน ตนตื่นนอนตั้งแต่เวลา 05.00 น. และให้ช่างแต่งตัวเจ้าสาวเสร็จในเวลาประมาณ 06.00 น. จากนั้นก็เฝ้ารอนายณัฐพัชร์ ว่าที่เจ้าบ่าวจนถึงเวลาประมาณ 07.30 น. นายณัฐพัชร์ก็ยังไม่ปรากฏตัว ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือก็ปิดเครื่อง ตนพร้อมด้วยนางภาวนาผู้เป็นแม่และญาติพร้อมเพื่อนบ้านอีกกว่า 10 คน จึงนั่งรถไปตามนายณัฐพัชร์ที่บ้าน แต่ก็ไม่พบ แต่พบกับพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้เหมือนกันว่านายณัฐพัชร์ไปไหน และที่สำคัญนายณัฐพัชร์ไม่เคยบอกพ่อกับแม่เลยว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของนายณัฐพัชร์กับตนแต่อย่างใด
เมื่อตนทราบเรื่องจึงมั่นใจว่าคงจะถูกนายณัฐพัชร์หลอกเรื่องที่จะแต่งงานด้วยเสียแล้ว จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ช่วยติดตามหาตัวนายณัฐพัชร์ ให้มาตกลงพูดคุยกันด้วยว่าจะเอาอย่างไร เพราะนอกจากนายณัฐพัชร์จะทำให้แม่ของตนเสียเงินค่าจัดงานแต่งงานไป 2 แสนกว่าบาทแล้ว ยังทำให้เกิดความอับอายเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะได้แจกการ์ดงานแต่งให้แขกมีระดับหลาย 100 ใบด้วยกัน
หลังทราบเรื่องราว ร.ต.ท.ศุภชัย ดีมงคล ร้อยเวรฯ ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ น.ส.ทัตชญา ว่าที่เจ้าสาวหม้ายขันหมากและนางภาวนาผู้เป็นแม่ทราบว่า จะออกหมายเรียกนายณัฐพัชร์ หรือ บาส หนุ่มแบงก์ ธกส. มาพูดคุยตกลงกันต่อไป ซึ่ง น.ส.ทัตชญา และนางภาวนาพร้อมด้วยญาติก็พอใจ จากนั้นจึงเดินลงจากโรงพัก สภ.เมืองลพบุรีไปด้วยความเศร้า