ศธ. ชงร่างกฎกำหนดทรงผมนักเรียนแล้ว คาดประกาศใช้เปิดเทอมนี้
ศธ. เสนอร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับความประพฤติ การแต่งกายและแบบทรงผมของนักเรียนให้ ครม. เห็นชอบแล้ว คาดนำมาใช้ได้ทันเปิดภาคเรียน 1/2556 นี้
เมื่อ วันที่ 9 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้เสนอร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับความประพฤติ การแต่งกายและแบบทรงผมของนักเรียนและนักศึกษาให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อนประกาศใช้ ซึ่งเนื้อหาในร่างกฎกระทรวงได้แบ่งเป็น 3 หมวด ดังนี้
หมวด 1 ความประพฤติ กำหนดให้นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน หรือสถานศึกษาที่สังกัดอยู่และต้องไม่พฤติตน ดังต่อไปนี้ หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือมั่วสุมในวงการพนัน พกพาอาวุธ หรือวัตถุอันตราย แสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี ออกนอกสถานที่พักเวลากลางคืนเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น และโรงเรียนหรือสถานศึกษาอาจกำหนดระเบียบว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและ นักศึกษาได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้
หมวด 2 การแต่งกาย นักเรียนและนักศึกษาต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับวัยและสภาพการเป็นนักเรียนและ นักศึกษา นักเรียนต้องแต่งกายหรือแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องแบบ นักเรียน นักศึกษาต้องแต่งกายหรือแต่งเครื่องแบบนักศึกษาตามข้อบังคับหรือระเบียบของ สถานศึกษา และนักเรียน นักศึกษาไม่ใช้เครื่องสำอางหรือสิ่งปลอมเพื่อเสริมสวย เว้นแต่กรณีมีความจำเป็น ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของโรงเรียนหรือสถานศึกษาพิจารณาเป็นกรณีไป
หมวด 3 แบบทรงผม กำหนดให้นักเรียนต้องไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับกาละเทศะ ดังนี้
1. นักเรียนชายให้ไว้ผมด้านข้างและด้านหลังยาวไม่เลยตีนผมหรือผมรองทรงก็ได้
2. นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียน ดัดผม ซอยผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน โดยข้อกำหนดดังกล่าวนี้ไม่ใช้บังคับกับนักเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและนักศึกษา โดยให้ไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับกาละเทศะตามข้อบังคับหรือระเบียบ ของสถานศึกษา
นอกจากนี้ ในหมวด 3 ยังระบุว่า หาก นักเรียนมีความจำเป็นต้องไว้ทรงผมแตกต่างจากที่กำหนดไว้เนื่องจากมีความจำ เป็นทางศาสนา ประเพณีหรือความจำเป็นอื่นใดก็ให้อยู่ในอำนาจของโรงเรียนเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้ โรงเรียนอาจกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวง นี้ โดยให้รับฟังความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์จากนักเรียนและได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งคาดว่าร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะประกาศใช้ได้ทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 นี้