หนุ่มคลั่งรักข้างเดียว ลอบวางเพลิงบ้านหญิงที่หลงรัก แถมยังก่อเหตุลอบวางเพลิงรถยนต์ญาติฝ่ายหญิงอีกด้วย
เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ต.ต.ฉัตรชัย นวลจริง สารวัตรเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งมีเหตุลอบวางเพลิง บ้านพัก เลขที่ 257 ม.12 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยนายดำ นาคจุติ กำนัน ตำบลวังตะกอ ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียวอยู่ในสวนปาล์ม
บริเวณห้องโถงภายในบ้านถูกไฟไหม้ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด รวมถึงภายในห้องนอนก็ถูกไฟไหม้จนทรัพย์สินเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โทรทัศน์ เสื้อผ้า โดยที่บริเวณภายนอกบ้าน ข้างห้องนอน เจ้าหน้าที่ตรวจพบร่องรอยเชื้อเพลิง และร่องรอยของคนร้ายที่ก่อเหตุ
จากการสอบถามนายสมชาย บุญญจิตติ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน
ได้การว่า ช่วงเวลา 01.00 น.ขณะที่กำลังนอนหลับภายในบ้าน ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงออกจากห้องมาดู พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ที่ห้องโถงและภายในห้องนอนของ น.ส.สุภาพรรณ บุญญจิตติ อายุ 48 ปี น้องสาว จึงช่วยกันเอาน้ำมาสาดดับไฟ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ก่อนวิ่งหนีออกมาอยู่ภายนอกบ้าน ปรากฎว่าพบ นายสมพร หรือนายเครียะ อายุประมาณ 40 ปี กำลังจุดไฟกับเศษกระดาษ โยนใส่เข้าไปในช่องหน้าต่าง เมื่อเห็นเจ้าของบ้านจึงรีบวิ่งหลบหนีไป
ต่อมาได้รับแจ้งจากนายสมเกียรติ น้องชายของนายสมชาย ที่มีบ้านพักห่างออกไปอีก 1 กม.ว่า
นายสมพร ได้ลอบก่อเหตุจุดไฟเผารถยนต์กระบะของนายสมเกียรติที่จอดไว้ในบ้านได้รับความเสียหาย ทางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงรุดไปตรวจสอบ พบว่ารถยนต์กระบะของนายสมเกียรติ ถูกไฟไหม้ที่ด้านข้างซ้ายเล็กน้อย ข้างรถพบแกลลอนน้ำมันถูกไฟไหม้ สอบถามนายสมเกียรติ ทราบว่า คนจุดไฟเผาคือนายสมพร ก่อเหตุแล้ววิ่งหลบหนีขึ้นไปบนภูเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บหลักฐานไว้
ต่อมาในขณะที่กำนันดำและกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังไปช่วยนายสมชายจะเก็บกวาดบ้าน ได้รับรายงานจากนายสมเกียรติ ว่า
นายสมพร ได้ย้อนกลับไปที่บ้านนายสมเกียรติ พร้อมทั้งใช้ท่อนไม้ทุบทำลายรถยนต์ จนกระจกข้าง และกระจกหน้าแตกละเอียด แล้วหลบหนีไป จนท.จึงรุดไปเพื่อช่วยเหลือนายสมเกียรติ ต่อมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเห็นนายสมพร อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งวิ่งไปตามบ้านเรือนต่างๆ พร้อมทั้ง ทำที เหมือนจะเข้าไปทำลายทรัพย์สิน แต่ชาวบ้านพากันเอาอาวุธออกมาขู่ นายสมพรจึงหลบหนีเข้าป่าลึกไป ท่ามกลางความมืด จนท.ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
ส่วนสาเหตุ ทราบว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา นายสมชายได้จ้าง นายสมพร เพื่อนบ้าน มาซ่อมสีรถยนต์กะบะ
เมื่อนายสมพรพบเห็น น.ส.สุภาพรรณ ซึ่งยังโสด ก็เกิดอาการชอบพอโดยไปบอกกับเพื่อนบ้าน แต่น.ส.สุภาพรรณ ไม่ทราบ และไม่ได้คิดอะไรกับนายสมพร ที่มักจะดื่มเหล้าหนักประจำ จนกระทั่งในช่วงดึกของวันนี้ในขณะที่น.ส.สุภาพรรณ กำลังหลับได้ยินเสียงนายสมพรมาเรียกข้างห้องพร้อมกลิ่นเหม็นเหล้า ต่อมาจึงได้เห็นนายสมพร จุดไฟด้วยกระดาษ โยนเข้าในบ้าน และก่อเหตุ ดังกล่าวขึ้น
ด้านกำนันดำ ได้สั่งให้ทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตั้งทีมคอยเฝ้าทั้งที่บ้านของนายสมชาย และนายสมเกียนติ รวมถึงนำทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากนายสมพร มีอาการคลุ้มคลั่ง อาจจะก่อเหตุกับบ้านชาวบ้านอื่นได้อีก รวมถึงยังมืดไม่สามารถติดตามจับกุมนายสมพรได้ ต้องรอ ช่วงเช้า จึงจะออกไล่ล่าอีกครั้ง