ผสมเทียมช้างได้ สัตวแพทย์ไทยเจ๋ง ครั้งแรกในเอเชีย

"ผสมเทียมช้างสำเร็จ ครั้งแรกในเอเชีย"


เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) นายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุล หน.ฝ่ายโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า โรงพยาบาลช้างร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปางช้างแม่สา จ.เชียงใหม่ มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้างภาคเหนือ สถาบันวิจัยสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ มูลนิธิอมตะ และบริษัท เคเพอร์เฟอร์แมนซ์ จำกัด จัดทำโครงการผสมเทียมช้างด้วยน้ำเชื้อช้างสด ประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกในประเทศ ไทย และเป็นทีมสัตวแพทย์คนไทยทีมแรกของเอเชียที่วิจัยเกี่ยวกับงานทางด้านการผสมเทียมช้างประสบความสำเร็จ

นายสัตวแพทย์สิทธิเดชเปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์ ได้ผสมเทียมช้างเพศเมียชื่อ พังขอด อายุ 25 ปี เป็นช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง โดยได้รับน้ำเชื้อจากช้างเพศผู้ชื่อ พลายจาปาตี อายุ 15 ปี เป็นช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ที่ได้รับบริจาคจากสวนสัตว์เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นช้างที่มีลักษณะงาสวยงามและมีคุณภาพน้ำเชื้อดี โดยช้างพังขอดได้รับการผสมเทียมเมื่อวันที่ 8-10 มิ.ย.48

ภายหลังจากการตรวจเช็กฮอร์โมนที่แสดงการตั้งท้องโปรเจสเตอโรน (Progesterone) พบว่าฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ในระดับสูง จึงตรวจท้องด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ พบว่าช้างพังขอดได้ตั้งท้องเป็นผลสำเร็จ ซึ่งโดยปกติตามธรรมชาติ ช้างจะตั้งท้องนานประมาณ 20-23 เดือน จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 7 มี.ค. ช้างพังขอดได้ตกลูกช้างออกมาเป็นเพศผู้ และเป็นลูกช้างที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง สร้างความดีใจให้กับทีมสัตวแพทย์เป็นอย่างมาก

"เป็นช้างเชือกแรกของไทย"


หน.ฝ่ายโรงพยาบาลช้างฯเปิดเผยถึงช่วงเวลาอันน่าประทับใจ ขณะช้างพังขอดตกลูกว่า ก่อนที่ช้างพังขอดจะตกลูกได้ส่งเสียงร้องดังลั่นสนั่นป่าเป็นสัญญาณเตือน จึงให้ควาญช้างที่เฝ้าระวังอยู่แล้วเตรียมดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากธรรมชาติของช้างเมื่อตกลูกแล้วมักจะทำร้ายลูกตัวเอง แต่หลังจากตกลูกออกมาแล้ว ลูกช้างก็ปลอดภัยดี โดยลูกช้างเพศผู้ตัวนี้เป็นลูกช้างเชือกแรกในประเทศไทยที่เกิดจากการผสมเทียมโดยทีมงานของคนไทยล้วนๆ และทางศูนย์คชบาลแห่งชาติจะได้เตรียมนำลูกช้างผสมเทียมน้อมเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ซึ่งถือว่าเป็นปีแห่งมหามงคลของคนไทยทั้งประเทศ

สำหรับเบื้องหลังความสำเร็จในการผสมเทียมช้างครั้งนี้ นายสัตวแพทย์สิทธิเดชกล่าวว่า ช้างพลายจาปาตี เป็นช้างหนุ่มมีอายุเพียง 15 ปี ทำให้น้ำเชื้อสดมีอัตราการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำเชื้อแช่แข็งจะมีอัตราการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพียง 30-40 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากทีมสัตวแพทย์คำนวณการตกไข่ของช้างพังขอดได้แม่นยำ อีกทั้งการสอดน้ำเชื้อสดได้ลึกจึงไปถึงไข่ในท้องช้างได้ดี ทำให้การผสมเทียมครั้งเดียวก็ติดทันที โดยใช้น้ำเชื้อเพียง 20-50 ซีซี เท่านั้น ถือเป็นช้างเชือกแรกของประเทศไทยที่ตกลูกจากการผสมเทียมจากเชื้อสด และเท่าที่ตรวจสอบการผสมเชื้อสดในช้างของประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย ก็ไม่เคยมีคณะแพทย์ กลุ่มใดเคยทำได้มาก่อน จึงถือเป็นผลงานของสัตวแพทย์ ไทยที่ทำสำเร็จเป็นครั้งแรก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์