วันนี้ (20 เม.ย.) นายดุลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักอนุรักษ์ช้างไทย
เข้าพบ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเปิดเผยข้อมูลการตายของช้างไทยที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
โดย นายดุลสิทธิ์ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
พบว่ามีช้างไทยตายจำนวนกว่า 6 เชือก ในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าช้างทั้งหมดล้วนเสียชีวิตที่อ่างกะหร่าง3 ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตพบว่ามีรอยกระสุนปืนตามตัวช้างหลายจุด แต่หัวกระสุนปืนที่ตรวจพบเป็นหัวกระสุนปืนที่ไม่สามารถฆ่าช้างให้เสียชีวิตได้ และการฆ่าช้างดังกล่าวไม่ได้ฆ่าเพื่อต้องการเอางาหรือไม่ได้ฆ่าเพื่อต้องการเอาลูกช้างตามที่กรมอุทยานฯระบุ แต่เชื่อว่าช้างที่ถูกฆ่าน่าจะถูกวางยาพิษและยิงเพื่อสร้างหลักฐานเท็จ โดยหวังผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่ได้แก่ กลุ่มกะเหรี่ยง กะหร่างและปกากะญอ เพื่อชะลอโครงการตามพระราชดำริ
นายดุลสิทธิ์ เปิดเผยต่อว่า โดยช้างป่าตัวแรกที่ถูกยิงตายที่บริเวณอ่างกระหร่าง 3
ซึ่งกรมอุทยานฯ ระบุว่า ถูกยิงตายเพื่อเอาลูกนั้น ความจริงแล้วช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างเพศผู้ ส่วนศพช้างที่พบตัวล่าสุดที่กรมอุทยานฯระบุเป็นช้างเพศผู้แต่ความจริงแล้วเป็นช้างเพศเมียโดยมีลูกติดอยู่ในท้อง
สำหรับการกระทำที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ตนเองเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุนที่เสียผลประโยชน์
โดยขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการใหญ่มีนายทุนค้าสิ่งผิดกฎหมายที่ต้องการใช้เส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายอยู่เบื้องหลัง มีนางรอยหรือนางดอย จันทวงศา ชาวลาว สัญชาติเวียดนาม นักค้าซากสัตว์ป่าระดับโลก เป็นนายทุนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีข้าราชการตำรวจและภรรยาชาวเวียดนามในจังหวัดชัยภูมิ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างนางลอยและนายทุนแก่งกระจานอีกด้วย