ตั้งวอร์รูมทำเนียบฯรับมือคดีพระวิหาร ฮุนเซ็น เรียกร้องคนกัมพูชา-กองทัพอยู่ในความสงบ

จากกรณีการพิจารณาคดีที่กัมพูชาขอให้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตีความคำตัดสินปราสาทพระวิหาร โดยศาลโลกเปิดให้ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชากล่าวถ้อยแถลงด้วยวาจาระหว่าง 15-19 เมษายนนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่สโมสรกองทัพบกเทเวศร์ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ได้ห่วงอะไร และไม่ได้สั่งการให้ทางกองทัพตั้งวอร์รูมแต่อย่างใด เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ที่จะมีการถ่ายทอดสดมายังไทยเท่านั้น อีกทั้งทางกระทรวงการต่างประเทศมีการตั้งวอร์รูม

อยู่แล้ว คงไม่ไปตั้งให้ซ้ำซ้อน สำหรับข้อมูลที่จะเตรียมไปนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เพียงเตรียมตัวให้พร้อมเท่านั้น เพราะเอกสารส่วนใหญ่ได้ส่งไปหมดแล้ว ไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ แต่มีความพร้อมอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 13 เมษายนนี้ พล.อ.อ.สุกำพล พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.วรวิทย์ ดรุณชู เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร จะเดินทางไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อร่วมฟังถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก ร่วมกับคณะของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
 
โดย พล.อ.อ.สุกำพล มอบหมายให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนการเตรียมความพร้อมของกำลังทหารกองทัพภาคที่ 2 บริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ขอให้ทุกหน่วยดูแลความสงบเรียบร้อยตามแผนปกติและป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ บริเวณแนวชายแดน ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมทวงคืนเขาพระวิหาร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและจังหวัดเข้ามาดำเนินการจัดกำลัง เพื่อระวังป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกขึ้นไปในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรพูดอะไร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ไปต่อสู้คดีให้ชนะ และดูแล้วคดีสามารถชนะได้ ส่วนที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองถือว่าไม่เป็นเหตุเป็นผล เพราะ
1.ที่บอกว่า เป็นทีมทนายเดิมสามารถเปลี่ยนได้ ถ้าเห็นว่าทำได้ดีกว่า
2.ที่บอกว่ารัฐบาลที่แล้วเป็นคนเอาขึ้นไปศาลโลกนั้น ความจริง รัฐบาลกัมพูชาเป็นคนนำไปขึ้นต่อศาลโลก เพราะประเทศไทยขณะนั้นต้องปกป้องอธิปไตย จากการที่รัฐบาลของพรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย หรือไทยรักไทย ที่ไปยอมให้กัมพูชาขึ้นปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกในนามของกัมพูชาประเทศเดียว จึงทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้น

นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้คนไทยติดตามดูการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร จากการถ่ายทอดสดของรัฐบาล แต่ไม่ควรวิจารณ์อะไร เพราะไม่เป็นผลดี โดยรัฐบาลต้องทำหน้าที่และต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะไปเรียกร้องให้คนอื่นรับผิดชอบได้อย่างไร ที่ผ่านมา ตนเห็นการดำเนินการของรัฐบาลที่ไม่เป็นผลดี ทำให้เสียเปรียบ และการที่ พล.อ.อ.สุกำพล รับคำเชิญจากกัมพูชาเดินทางไปปราสาทพระวิหาร ทำให้ไทยเสียเปรียบด้วย

นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Noppadon Pattama ว่า คดีในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ที่จะมีการแถลงด้วยวาจาตีความคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 15-19 เมษายนนี้ โดยคดีนี้เป็นการตีความไม่เกี่ยวกับตัวปราสาทพระวิหาร เพราะตัวปราสาทพระวิหารนั้นศาลโลกตัดสินเมื่อ 51 ปีก่อนคือในวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ให้ตกเป็นของกัมพูชาไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่านายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และ

ตนเป็นคนยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาแล้วมา ด่าพวกตน ความจริงก็คือไทยแพ้คดีในศาลโลกเมื่อ 51 ปีก่อนและจำใจต้องยกตัวปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว

นายนพดล ระบุว่า 51 ปีที่แล้ว หนึ่งในทีมทนายที่ว่าความในคดีศาลโลกคือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทนายทุกคนต่อสู้ดีที่สุดแล้ว คงไม่มีใครอยากแพ้คดี เรื่องตัวปราสาทพระวิหารมันจบไปตั้งแต่ 51 ปีที่แล้ว ไทยรื้อฟื้นคดีไม่ได้แล้ว แต่ที่กัมพูชาและไทยยังถกเถียงกันไม่ใช่ใครเป็นเจ้าของตัวปราสาท แต่เป็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะไทยอ้างเป็นของไทย แต่กัมพูชาอ้างเป็นของกัมพูชา สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะต่างฝ่ายต่างยึดถือแผนที่คนละชุด และยึดถือเส้นเขตแดนคนละเส้น (ไทยยึดสันปันน้ำแต่กัมพูชายึดแผนที่ระวาง 1 ต่อ 200,000)

รัฐบาลสมัครเข้าบริหารประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เรารับเผือกร้อนมาจากรัฐบาลทหาร คมช. กัมพูชาเขายื่นเรื่องขึ้นทะเบียนตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนฝ่ายเดียวมาก่อน เราเข้ารับตำแหน่งแล้ว ดังนั้นที่มาเที่ยวด่าว่ารัฐบาลสมัครเป็นผู้ทำคำแถลงการณ์ร่วมจนทำให้ กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวจึงเป็นเท็จครับ ผมว่านายกฯทุกคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทุกคน ไม่มีใครชั่วพอที่จะทำให้ไทยเสียประโยชน์ด้านดินแดน ไม่มีใครขายชาติหรอกครับ นอกจากนั้นการทำงานต้องทำร่วมกับข้าราชการ ทหาร กองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ถ้าทำไม่ดี ข้าราชการเขาไม่เอาท่านไว้แน่ แต่กรณีของผม สิ่งที่ผมทำนั้นข้าราชการเห็นด้วย มีการปรึกษาหารือและเห็นชอบเป็นลำดับ จากระดับกระทรวงต่างประเทศ ก็ส่งเรื่องเข้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วเสนอเข้า ครม. ทำเป็นขั้นเป็นตอนŽ นายนพดลระบุ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมกรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จะเปิดให้ฝ่ายไทยและกัมพูชากล่าวถ้อยแถลงด้วยวาจาในคดีปราสาทพระวิหารต่อศาล ในระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน โดยรัฐบาลได้เตรียมวอร์รูมไว้ 2 แห่งคือ

1.กระทรวงการต่างประเทศ และ
2.ทำเนียบรัฐบาล โดยจะตั้งวอร์รูมระหว่างวันที่ 15-19 เมษายนที่ห้องปฏิบัติการตึกไทยคู่ฟ้า ชั้น 2 โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และข้าราชการจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศคอยมอนิเตอร์และประเมินสถานการณ์ตลอด การแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก เพื่อเตรียมชี้แจงและรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

สำนักข่าวซิ นหัวรายงานเมื่อวันที่ 11 เมษายนว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนและกองทัพกัมพูชาอยู่ในความสงบขณะที่กัมพูชาและไทย จะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในคดีที่กัมพูชายื่นขอให้ศาลตีความคำพิพากษาเดิมเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเหนือ ปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

แม้จะมีคน ไทยกลุ่มหนึ่งออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ใกล้กับชายแดนปราสาทพระวิหาร สร้างความยุ่งยากให้กับรัฐบาลและกองทัพไทย แต่ผมอยากจะขอร้องให้ประชาชนกัมพูชาและทหารในกองทัพตั้งอยู่ในความสงบ เพราะสัปดาห์หน้าจะเป็นเพียงการกล่าวถ้อยแถลงด้วยวาจา ยังไม่ถึงเวลาที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาใดๆ เพราะคาดว่าศาลจะมีคำตัดสินในช่วงปลายปีนี้Ž สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าว

ด้าน นายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่า ค่อนข้างมองผลการยื่นตีความคดีดังกล่าวในแง่ดีเพราะศาลโลกให้ความสนใจกับคดี นี้มาก กัมพูชาขอให้ศาลตีความคำพิพากษาเดิมเพราะไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชา ยึดครองดินแดนที่พนมตราบ และยังกล่าวอ้างว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหารเป็นของไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่จะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อศาลโลกในส่วนของไทยคาดว่าจะประกอบด้วยนายวีร ชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนไทย และคณะที่ปรึกษากฎหมายต่างชาติคือ ศ.อแลง แปลเล่ต์ ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ศ.โดนัล แม็คเรย์ ขณะที่คณะผู้แทนไทยซึ่งเดินทางไปร่วมรับฟังการกล่าวถ้อยแถลงด้วยวาจาประกอบ ด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายธนะ ดวงรัตน์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายวรเดช วีระเวคิน อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย พล.ท.นพดล โชติศิริ เจ้ากรมแผนที่ทหาร นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ และนายดามพ์ บุญธรรม ผอ.กองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย

สำหรับคณะผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย นายฮอ นัมฮง ในฐานะตัวแทนกัมพูชา นายวาร์ คิมฮง รัฐมนตรีแห่งรัฐในฐานะรองตัวแทน นายลอง วิสาโล รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ นายแฮม สะแอม เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเนเธอร์แลนด์ นายสะรุน ริทเธีย ที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศ นายฮอย พิชราวุธ ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี นายราอูล เจนนาร์

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมายคือ ศ.ฌอง มาร์ค ซอเรล เซอร์แฟรงคลิน เบอร์แมน และนายร็อดแมน บุนดี