กปน. เผย คนใช้น้ำทุบสถิติ เหตุร้อนจัด - สั่งผลิตเพิ่มเป็น 5.1 ลบ.ม./วัน

กปน. เผย อากาศร้อนจัดปีนี้ ทำให้สถิติการใช้น้ำของประชาชนพุ่งสูงที่สุดของการผลิตน้ำที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเตรียมเพิ่มกำลังผลิตเป็น 5.1 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการผู้ใช้น้ำ

          เมื่อวานนี้ (10 เมษายน) นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ดังนั้น กปน. จึงเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการจัดตั้ง "ศูนย์อำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์น้ำและคุณภาพน้ำ" โดยมี นายสมัย อนุวัตรเกษม รองผู้ว่าการด้านผลิตและส่งน้ำ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ 

          ทั้งนี้ การทำงานของศูนย์ดังกล่าวจะมีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้ประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด โดยกรมชลประทานจะทำการผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนมายังแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ปริมาณน้ำดิบเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ซึ่งค่าความเค็มที่เกิดจากปัญหาน้ำทะเลหนุนในช่วงหน้าแล้งนั้น ล่าสุด ณ วันที่ 10 เมษายน วัดค่าความเค็มบริเวณจุดรับน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี ได้ 0.21 กรัม/ลิตร น้อยกว่าค่าที่ กปน. ยอมรับได้ คือ 0.25 กรัม/ลิตร อย่างไรก็ตาม กปน. ยังคงติดตามเฝ้าระวัง รวมทั้งประสานงานกับกรมชลประทานตลอดเวลา

          ผู้ว่าการ กปน. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูร้อนนี้ กปน. ได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาอีกวันละ 2 แสนลูกบาศก์เมตร รวมเป็นวันละ 5.1 ล้านลูกบาศก์เมตร จากช่วงปกติที่ผลิตวันละ 4.9 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้น้ำของประชาชน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของการผลิตน้ำที่ผ่านมา และ กปน. ยังได้เตรียมรถบรรทุกน้ำ เพื่อออกให้บริการในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนน้ำ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยขณะนี้ได้ส่งรถบรรทุกน้ำให้ความช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชรกับลพบุรีแล้ว

          นอกจากนี้ กปน. ได้เปิดจุดจ่ายน้ำประปา 28 จุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในเขตรอบนอก และจังหวัดข้างเคียงที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยหน่วยงานราชการ มูลนิธิต่าง ๆ สามารถนำภาชนะ หรือรถบรรทุกน้ำ มาขอรับน้ำประปาได้ฟรีที่จุดจ่ายน้ำประปาทั้ง 28 จุด ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานประปาสาขาทั้ง 16 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

          ส่วนอีก 12 จุดที่เหลือ ที่ประชาชนสามารถใช้บริการได้มีดังนี้ 

          1. โรงเรียนสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ ถนนอ่อนนุช 
          2. ถนนบางพลีน้อย-สีล้ง
          3. หน้าโรงไฟฟ้า EPEC
          4. ซอยผู้ใหญ่บ้านวีระ (ถนนบางนา-ตราด กม.27)
          5. หน้าวัดสุคันธาวาส (ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี)
          6. หน้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก สมุทรปราการ
          7. ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา
          8. ภายในสำนักงานเขตลาดกระบัง 
          9.  ภายในสำนักงานเขตหนองจอก
          10. บริเวณหัวดับเพลิงหน้าสถานีตำรวจภูธร อ.พระสมุทรเจดีย์
          11. จุดจ่ายน้ำหน้าเทศบาลเมืองลัดหลวง 
          12. จุดจ่ายน้ำบริเวณปากซอยประชาอุทิศ 90  

          อย่างไรก็ตาม นายเจริญ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ในปีนี้จะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ แต่ทุกคนควรช่วยกันใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพื่อให้เราทุกคนไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้