คุมเข้มพ่อคูณกลับวัด-ญาติโยมกราบผ่านห้องกระจก
วันนี้ (5 เม.ย.) คณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด ได้นิมนต์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ออกจากห้องพักผู้ป่วย นั่งรถเข็นลงลิฟต์ไปขึ้นรถตู้โฟล์คสวาเก้นท์ สีบรอนด์ ทะเบียน กข1 นครราชสีมา เพื่อเดินทางกลับวัดบ้านไร่ ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากที่ทราบข่าว ต่างพากันมาเฝ้ากราบนมัสการส่งหลวงพ่อคูณกลับวัด และอวยพรให้หลวงพ่อสุขภาพแข็งแรง โดยตลอดเวลาหลวงพ่อคูณมีสีหน้าแจ่มใส พูดคุยบอกกับลูกศิษย์ว่า “เออ...กูกลับวัดแล้ว ให้ลูกหลานโชคดีเด้อ...”
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รอง ผบก.ทล. ได้นำผ้ายันต์ของหลวงพ่อคูณซึ่งมีข้อความระบุว่า “เที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย ไม่เมา ไม่ขับเร็ว ไม่ประมาท ถึงบ้านทุกคน” มาให้หลวงพ่อคูณปลุกเสกเป่าคาถา เพื่อนำไปแจกจ่ายเตือนสติให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ด้วยความปลอดภัยอีกด้วย
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลวงพ่อคูณเข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รอบนี้เป็นระยะเวลามากกว่า 4 เดือน ถือว่ายาวนานที่สุด ถึงขณะนี้อาการดีขึ้นมาก ไม่มีไข้ ภาวะติดเชื้อทั้งในระบบหายใจและท่อทางเดินปัสสาวะหายเป็นปกติ จึงเป็นเรื่องที่น่าดีใจที่หลวงพ่อได้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ จากนี้ไปต้องขอให้ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาทั่วไป ได้ช่วยกันดูแลประคับประคองหลวงพ่อคูณให้ดี ไม่รบกวนการพักผ่อน เพราะหลวงพ่ออายุ 90 ปีแล้ว มีโรคประจำตัวหลายโรค โดยเฉพาะโรคปอดเรื้อรัง ร่างกายอ่อนไหวต่อการติดเชื้อจากภายนอก ต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนให้ดี
"เมื่อหลวงพ่ออยู่ที่วัดบ้านไร่ จะมีทีมแพทย์สับเปลี่ยนหมุนเวียนคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลวงพ่อจะได้พักอยู่ในห้องปลอดเชื้อที่ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีการปรับอุณหภูมิของห้องพักให้อยู่ระหว่าง 26-28 องศาเซลเซียส และปรับเปลี่ยนได้ตามตัวแปรสภาพอากาศภายนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมควบคุมความดันอากาศตลอด 24 ชั่วโมง บรรยากาศในห้องเสมือนเป็นต้นลม ที่พัดไหลเวียนออก หากมีเชื้อแทรกเข้ามาก็จะถูกพัดออกจากห้อง ให้เป็นห้องปลอดเชื้อ 100 เปอร์เซ็นต์" นพ.ณรงค์กล่าว
ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา กล่าวอีกว่า ต้องมีมาตรการควบคุมญาติโยมที่จะเข้ากราบนมัสการ ห้ามไม่ให้เข้าสัมผัสตัวหลวงพ่อโดยตรง ต้องกราบผ่านห้องกระจกอีกชั้นหนึ่งเท่านั้น เพื่อลดการแพร่เชื้อโรคจากญาติโยมสู่หลวงพ่อ ซึ่งการกราบนมัสการหลวงพ่อ ที่จริงกราบตรงไหนก็ได้ หลวงพ่อท่านรับรู้ด้วยจิตของท่านอยู่แล้ว และการถวายปัจจัยต่าง ๆ ก็ต้องใส่พาน ไม่ควรถวายผ่านมือหลวงพ่อโดยตรง อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการดูแลหลวงพ่อคูณอย่างเข้มงวด มิฉะนั้นหลวงพ่อก็อาจติดเชื้อรุนแรง แล้วก็เข้ามารับการรักษาที่ รพ.เหมือนเดิมอีก.