กลับลำ!? โฆษกตำรวจ ปัดออกกฎ 11 ข้อ เล่นน้ำสงกรานต์

โฆษกตำรวจ ปัดออกกฎ 11 ข้อ เล่นน้ำสงกรานต์ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เผยประชาชนยังเล่นน้ำ-ปะแป้ง-นั่งหลังกระบะ ได้ตามปกติ แต่จะกวดขันในเรื่องการขายสุรา การแข่งรถ และแหล่งมั่วสุม

            หลัง จากที่บรรดาประชาชนได้ทราบถึงข้อห้าม 11 ข้อ ในการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ออกโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ก็สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก บ้างก็อัดคลิปวิดีโอต่อว่า บ้างก็โพสต์ด่าเหน็บแนม โดยเฉพาะข้อที่ห้ามขึ้นรถกระบะสาดน้ำเล่นสงกรานต์ ซึ่งชาวเน็ตทวงถามว่า ถ้าห้ามกันขนาดนี้ ก็อย่าจัดให้มีประเพณีสงกรานต์ไปเลยดีกว่านั้น

            ล่าสุด (4 เมษายน) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตำรวจ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ ได้เป็นคนกำหนดข้อห้าม 11 ข้อ ขอชี้แจงว่า ประชาชนยังสามารถเล่นน้ำ, นั่งหลังกระบะ, ขายแป้ง และร่วมสนุกประเพณีสงกรานต์ได้ตามปกติ แต่กรณี เล่นน้ำจนเกินเลย หรือกระทำการที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย อย่างการจำหน่ายสุราให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี การเปิดเครื่องเสียงดัง การลวนลามอนาจาร ซึ่งหากตำรวจได้รับแจ้งก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

            สำหรับ ข้อห้ามที่ระบุว่า ห้ามดื่มสุราบนรถทั้งคนขับและผู้โดยสาร ซึ่งหากพบการกระทำดังกล่าว ก็ต้องดำเนินคดี แต่ถ้าหากผู้โดยสารมึนเมา แต่ไม่พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะให้พักรถจนกว่าอาการดีขึ้นแล้วปล่อยไปโดยไม่จับกุม หรือผู้ที่อยู่ในอาการมึนเมาสามารถนั่งรถแท็กซี่กลับได้ ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย
 
            อย่างไรก็ดี ทาง พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้จัดทำแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด รวมถึงกวดขันการจำหน่ายแป้ง จำหน่ายสุรา ในช่วงเวลา และช่วงอายุดังกล่าว พร้อมกับกวดขันเรื่องการดื่มสุราบนทางเท้า การเต้นหน้าร้านเพื่อเชิญแขก การแข่งรถในทางสาธารณะ กลุ่มบุคคลหรือวัยรุ่นที่มั่วสุมเป็นอันธพาล โดยจะดำเนินคดีตามกฎมายอย่างเด็ดขาดทุกกรณี

            อนึ่ง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.ปิยะ ได้ออกมาแถลงว่า ในปีนี้จะห้ามเล่นแป้งในวันสงกรานต์, ห้ามเล่นน้ำบนรถกระบะ พร้อมกำหนดโซนเล่นน้ำ ดังนี้

            1. ห้ามซื้อ และขายสินค้าบนไหล่ทาง  หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

            2. ห้ามเปิดเครื่องเสียง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

            3. ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน หากฝ่าฝืน มีความผิดฐานสร้างความเดือดร้อน แต่หากมีการฝ่าฝืนข้อห้าม และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดดังต่อไปนี้

                ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

                ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้เสียชีวิต : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

                ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตด้วย : ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย

            4. ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์

            5. ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ

            6. ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที

            7. ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที โดยมีความผิดฐานกระทำการอนาจาร ต่อเด็กหญิง หรือสตรี

            8. ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ หากเป็นการขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายให้ผู้ที่เมาอยู่แล้ว มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี

            9. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ โดยในกรณีนี้ ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            10. ห้ามเล่นแป้ง หากพบ จะมีการตักเตือน แต่สำหรับผู้จำหน่ายแป้ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

            11. ห้ามเมาแล้วขับรถ หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่