สงกรานต์สะพัดแสนล้าน เน้นดื่ม-กิน-อยากรดน้ำนายกฯปู
หอการค้าสำรวจพบปีนี้คึกคัก คาดคนใช้เงินเที่ยวทะลุ 1.14 แสนล้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผยคนอยากรดน้ำ ยิ่งลักษณ์ ณเดชน์ อั้ม บี้ มากที่สุด นายกเชียงใหม่นำทีม ฉีดคลอรีนบำบัดน้ำคูเมืองก่อนล้างหน้าโชว์
วันที่ 4 เมษายน ที่ จ.เชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรี นครเชียงใหม่ พร้อมผู้บริหารออกตรวจคุณภาพน้ำคูเมือง บริเวณแจ่งศรีภูมิ พร้อมฉีดคลอรีนบำบัดก่อนใช้น้ำคูเมืองล้างหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นัก ท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเล่นน้ำในงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรือ เทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้ รอบคูเมืองเชียงใหม่
นาย ทัศนัยกล่าวว่า ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตรวจคุณภาพน้ำคูเมืองแล้ว พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สามารถเล่นน้ำได้ตามปกติ พร้อมวางทุ่นแนวเขตน้ำลึก ติดป้ายห้ามดื่ม และจำหน่ายแอลกอฮอล์รอบคูเมืองเป็นภาษาไทย อังกฤษ-จีน ป้องกันการจมน้ำและอุบัติเหตุ
"ปีนี้มีกิจกรรมพิเศษ 2 กิจกรรม คือ งานสงกรานต์อุษาอาคเนย์ ของ 5 ชาติ คือ พม่า จีน ลาว กัมพูชา และไทย บริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด วันที่ 11-15 เมษายน เพื่อนบ้านมีประเพณีสงกรานต์ที่คล้ายและแตกต่างของไทย แต่มีวิถีชีวิตที่มีความผูกพันทางศาสนา เป็นการต้อนรับสู่ประชาคมอาเซียน ส่วนงานสงกรานต์ล้านนา จัดบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และประตูช้างเผือก ที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมล้านนา อาทิ วันสังขารล่อง วันเนา วันพญาวัน วันปากปี และวันปากเดือน ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานเปิดงานสงกรานต์ล้านนา วันที่ 13 เมษายนนี้
ซึ่งงานปี๋ใหม่เมือง เน้นอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมล้านนา มีขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่กว่า 50 วัน ขนทรายเข้าวัด แห่ไม้ค้ำ และรดน้ำดำหัวพ่อเมือง นอกจากนี้วัดสำคัญในเชียงใหม่ อาทิ วัดเชียงมั่น วัดแห่งแรกเชียงใหม่ มีสรงน้ำพระเสตังคมณี
วัดป่าเป้า งานประเพณีปอยส่างลอง วัดเจ็ดลิน สร้างเจดีย์ทรายสุดส้าว ใหญ่ที่สุดในล้านนาวัดยางกวง มีประเพณีสรงน้ำเจดีย์จ๋อมสรี๋ปุรีนามน่างรั้ว ไหว้สาป๋ารมีพรเจ้าแสนแซว่ วัดโลกโมฬีมีงานสืบสานฮีตฮอย ย้อนรอยปี๋ใหม่เมือง สรงน้ำพระ และตัดจ้อ-ลานตุง คาดมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ 80,000-100,000 คน ทำรายได้รวม 1,000 ล้านบาท ขณะที่มียอดจองห้องพักแล้ว 80% และมีเที่ยวบินตรงจากจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรปกว่า 50 เที่ยว ส่วนปัญหาหมอกควัน อาจมีผลกระทบท่องเที่ยวบ้าง แต่ไม่มากนัก" นายทัศนัย กล่าว
ที่จังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์ กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า ทางเทศบาลได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม สสส. และตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ได้ร่วมจัดงาน "ตักสิลา มหาสารคามสุดยอดถนนข้าวเม่า ปลอดเหล้า ปลอดภัย สารคามร่วมใจ สืบสานประเพณีไทยดีงาม งานประเพณีสงกรานต์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2556 บริเวณถนนผดุงวิถี หรือถนนข้าวเม่า เพื่ออนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และเป็นการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวอีสานอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นให้สืบทอดต่อ ไป ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การเล่นสงกรานต์ของจังหวัดมหาสารคาม อย่างมีวัฒนธรรม สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวสำหรับคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
กิจกรรม ช่วงงานประเพณีสงกรานต์เริ่มด้วยการ ทำบุญตักบาตรในตอนเช้าของวันที่ 13 เมษายน ชม ขบวนแห่นางสงกรานต์ ขบวนรดน้ำขอพร ผู้สูงอายุ จากผู้สูงอายุทั้ง 30 ชุมชน แห่พระพุทธรูปประจำเมือง ให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล การเล่นกีฬาพื้นเมือง และการแสดงวงดนตรีของเยาวชน
ทางด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำรวจประชาชน 1,183 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2556 พบว่า บรรยากาศสงกรานต์ปีนี้จะคึกคักกว่าปีก่อน และมีเงินสะพัด 114,119.8 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 10.42% ที่มีมูลค่า 103,348 ล้านบาท ถือว่ามูลค่าการใช้จ่ายสงกรานต์ปีนี้สูงสุดทั้งในแง่มูลค่าและอัตราขยายตัว ในรอบ 9 ปี หรือสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นางเสาวณีย์กล่าวว่า นอกจากนี้ เป็นปีแรกที่ประชาชน 66.5% ระบุว่า มีการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ในจำนวนนี้ 40% ระบุว่า ใช้จ่ายเพิ่ม อีก 49% ใช้จ่ายเท่าเดิม และ 11% ใช้จ่ายลดลง สถานที่ท่องเที่ยวนิยมอันดับแรกคือ ทะเล รองลงมาคือ น้ำตก ภูเขา และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเพื่อสุขภาพ โดยการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 14.5% ในปีก่อนเป็น 18.9% และอีก 81.1% ระบุเที่ยวในประเทศ
นางเสาวณีย์กล่าวว่า ส่วนการวางแผนใช้จ่ายอันดับแรกเป็นการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ตามมาคือ สังสรรค์จัดเลี้ยงและทำบุญ ที่น่าจับตาคือ ประชาชนระบุจะใช้จ่ายกับการซื้อสุราเพิ่มมากขึ้น สะท้อนว่าสงกรานต์ปีนี้จะนิยมสังสรรค์และดื่มสุราเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่ทางการต้องเตรียม
มาตรการดูแลไม่ให้เกิดการสูญเสียต่อ ชีวิตและทรัพย์สิน ความกังวลในช่วงสงกรานต์ปีนี้คือ อากาศร้อน อุบัติเหตุในการเดินทาง จราจรติดขัด และเล่นสาดน้ำที่รุนแรง
สำหรับ นักการเมืองที่ประชาชนระบุต้องการไปรดน้ำดำหัวมากที่สุด 48.9% คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รองลงมา 13.3% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 8.8% นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และ 6.7% พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนนักแสดงที่ต้องการไปเล่นน้ำด้วยคือ ณเดชน์ คูกิมิยะ และอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ส่วนนักร้องที่ต้องการไปเล่นน้ำด้วยคือ บี้ เดอะสตาร์ และกระแต ส่วนพิธีกรคือ เอกกี้ และกาละแมร์ ผู้ประกาศข่าวคือ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และน้องไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ
สำหรับ พรที่ต้องการมากที่สุดคือ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงเจริญพระชนมพรรษายั่งยืนนาน และขอให้เศรษฐกิจดี
วันเดียวกัน ที่ลานกิจกรรมใต้สะพานพระราม 8 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก จัดกิจกรรมรณรงค์หยุดการคุกคามทางเพศของวัยรุ่นช่วงสงกรานต์ ภายใต้โครงการ "สาด...ไม่แต๊ะอั๋ง แมนโคตรๆ" โดยมีวัยรุ่นชายหญิงเข้าร่วมมากกว่า 100 คน
ภาย ในงานมีการปล่อยขบวนมอเตอร์ไซค์และรถสามล้อ ติดป้ายรณรงค์โครงการกว่า 50 คัน เพื่อเชิญชวนให้วัยรุ่นหนุ่มสาวหยุดฉวยโอกาส หยุดลวนลาม คุกคามทางเพศช่วงสงกรานต์ พร้อมกันนี้ได้มีการเสวนา เปิดเผยผลสำรวจ มุมมองวัยรุ่นชายต่อปัญหาล่วงละเมิดทางเพศช่วงสงกรานต์ โดยนายศุภชัย ใจยอง จากเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างเยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวน 664 คน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม ว่า กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 72 มองว่าเทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่วัยรุ่นไทยให้ความสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือวันขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันลอยกระทง
ทั้งนี้ วัยรุ่นส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญวันสงกรานต์เรื่องการสาดน้ำ ประแป้งร้อยละ 54 รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ร้อยละ 20 สามารถแตะเนื้อต้องตัวกันได้ ร้อยละ 9 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ร้อยละ 7 ส่วนปัญหาที่คิดว่าจะเกิดขึ้นมากในวันสงกรานต์ คือ การทะเลาะวิวาทร้อยละ 30 การแต่งตัวล่อแหลมร้อยละ 27 ขณะที่ความคิดเห็นต่อประเด็นปัญหาการคุกคามทางเพศของวัยรุ่นในช่วงสงกรานต์ นั้น ปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือร้อยละ 57 มองว่าเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ขณะที่ร้อยละ 26 มองว่าเป็นเทศกาลแห่งโอกาสที่ใครๆ ก็ทำได้ไม่ต้องสนใจกฎหมาย
นายศุภ ชัยกล่าวว่า กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ถึงร้อยละ 59 นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น ค่านิยมที่ผิด การไม่เคารพสิทธิผู้อื่น การยุยงส่งเสริมของเพื่อนและการที่เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลย จึงอยากให้ภาครัฐแก้ปัญหาโดยการบังคับใช้กฎหมายที่โทษแรงกว่านี้ โดยต้องรณรงค์สร้างจิตสำนึก ค่านิยม พร้อมทั้งมีหน่วยงานร้องเรียนช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้วย ที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้มงวดมากขึ้น ตรวจจับผู้ที่ทำผิดกฎหมายในพื้นที่ กทม. และเห็นด้วยหากห้ามขาย ห้ามดื่มสุราในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์
ด้านนายเอ (นามสมมุติ) อาสาสมัครจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่าก่อนที่จะเข้ามาอยู่บ้านกาญจนา ตนและเพื่อนมองว่าเทศกาลสงกรานต์มีไว้เก็บโจทก์ คือเป็นช่วงเวลายกพวกตีกันกับคู่อริ โดยเมื่ออยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่จึงมักมีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้แม้บางครั้งไม่อยากล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง แต่หลายคนก็ขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้
"เมื่อเหล้าเข้าปาก หลายครั้งที่ลวนลามผู้หญิงทั้งที่เขาไม่เต็มใจหรือไม่รู้ตัว เช่น ดึงกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออก หรือประแป้งที่หน้าทำให้ป้องกันตัวเองไม่ได้ ยิ่งหากผู้หญิงมากับแฟนแล้วไม่พอใจทั้งคู่ อาจรุนแรงถึงมีการยกพวกตีกัน เพราะถือว่าเล่นกันเป็นกลุ่ม มีพวกมากไม่กลัวใคร ผู้หญิงที่โดนลวนลามส่วนมากมักไม่กล้าแจ้งความยิ่งทำให้ได้ใจ จึงอยากฝากให้ผู้หญิงทุกคนระมัดระวังตัวเอง ไม่แต่งตัวล่อแหลม และไม่ดื่มแอลกอฮอล์" นายเอทิ้งท้าย
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. สั่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดทำแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด รวมถึงกวดขันเอาผิดการห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มสุราในสถานที่ ช่วงเวลา และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บน
ทาง พร้อมทั้งกวดขันสถานบริการให้ดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่จัดให้มีการเต้นหน้าร้านเพื่อเชิญชวนให้ผู้ที่สัญจร ไปมาเข้าร้าน และกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางสาธารณะ