ศาลสั่งหมอประกิตเผ่าจ่าย 6.5 ล้านรุกป่า345ไร่

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครราชสีมาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีความแพ่ง หมายเลขดำที่ 1019/52 ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาชื่อดัง กับพวก เป็นจำเลยโดยศาลได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 6,510,150 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.46 ให้กรมอุทยานฯ จนกว่าจะชำระเสร็จ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่บริเวณป่าซับพลู ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รวมเนื้อที่ 345 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้าง 3 รายการ ได้แก่ บ้านพักไม้ชั้นเดียว ทรงสเปน กว้าง 3 เมตร ยาว 12 เมตร บ้านพักไม้ชั้นเดียวทรงสเปนกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร และอาคารกำลังก่อสร้างแบบสำนักงาน กว้าง 20 เมตร ยาว 25 เมตร ในข้อหาร่วมกันบุกรุกทำลายพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

จากการสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนพ.ประกิตเผ่า ซื้อที่ดินมาจากราษฎรบ้านซับพลูเมื่อปี 44 เนื้อที่ 345 ไร่ ในราคาไร่ละ 8,000 บาท และเข้าครอบครองพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.46 โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯทับลาน เข้าจับกุมดำเนินคดีทางอาญา และฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ฐานทำให้สภาพแวดล้อม (ป่าไม้ ดิน  น้ำ อากาศ) ในเขตอุทยานแห่งชาติเสื่อมเสีย จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว

ขณะที่ศาลจังหวัดกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 260/2556 ระหว่างอัยการจังหวัดกบินทร์บุรี (โจทก์) กับนายเกิด เพชรเลิศ จำเลยที่ 1 กับ นายชยุต หรือณัฐวุฒิ คูณปลูกผล หรือปลูกผล จำเลยที่ 2 ทั้งนี้ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองคน คนละ 5 ปี 16 เดือน และปรับคนละ 99,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยทั้งสอง รวมทั้งคนงาน ผู้รับจ้างแทน และบริวารของจำเลยออกไปจากเขตอุทยานฯทับลาน 

หลังจากก่อนหน้านี้ จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันบุกรุก ก่นสร้าง แผ่วถาง ทำลายต้นไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่า และยึดถือครอบครองที่ดินเพื่อทำสวนยางพารา และสร้างบ้านพัก 1 หลัง ในบริเวณป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ ป่าเขาสะโตน ท้องที่เขาพอก หมู่ 6 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเขตอุทยานฯทับลาน  รวมเนื้อที่กว่า 229 ไร่ คำนวณเป็นความเสียหายของรัฐเป็นเงิน 10,631,681 บาท

นอกจากนี้ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 มี.ค.56 ให้มีคำสั่งตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามกฏหรือคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดี คือ นายสมจิตร์  นิลสุวรรณ ที่ปลูกบ้านพักอยู่ในเขตอุทยานฯทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯทับลาน จับกุมและแจ้งให้รื้อถอน แต่นายสมจิตร์ไปฟ้องศาลปกครอง จนกระทั่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งดังกล่าวออกมาด้านศาลปกครองนครราชสีมา ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 มี.ค.56 พิพากษายกฟ้อง
 
เนื่องจากศาลวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตอุทยานฯทับลาน และผู้ฟ้องคดี คือ นายมนตรี  สมิตะลัมพะ (เจ้าของไร่กฤษวรรณ) ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากปล่อยไว้นานจะก่อให้เกิดความเสียหาย และผลกระทบต่อการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ และอีกคดีศาลปกครองนครราชสีมาได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.56 พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตอุทยานฯทับลาน และผู้ฟ้องคดีนายอัศวนนท์  นิรันดร (เจ้าของรีสอร์ทอิมภูฮิลล์) ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากปล่อยไว้นานจะก่อให้เกิดความเสียหาย และผลกระทบต่อการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯทับลาน เปิดเผยว่าทุกคดีที่มีการจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน จะถูกดำเนินคดีทั้งอาญา และถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งควบคู่กันไปด้วย ฐานทำให้สภาพแวดล้อมในเขตอุทยานแห่งชาติเสื่อมเสีย

โดยศาลแพ่งมีคำพิพากษาออกมาหลายคดีแล้ว ส่วนกรณีเจ้าของบ้านพัก และเจ้าของรีสอร์ท  3 ราย ที่ศาลปกครองมีคำสั่งไม่คุ้มครองออกมานั้น เจ้าหน้าที่อุทยานฯทับลาน จะรื้อถอนให้เร็วที่สุด เพื่อเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ ขอยืนยันว่าทุกคดีที่จับกุมไปแล้วกำลังเดินไปตามกระบวนยุติธรรม ไม่ได้เงียบหายไปไหน โดยผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งหมดเป็นนายทุนต่างถิ่น บางรายเป็นข้าราชการ ไม่มีการจับกุมชาวบ้าน คนยากคนจนแม้แต่รายเดียว และใครที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน จะถูกจับกุมดำเนินคดีทุกราย.