ตร.3กองร้อยดูสภาถกแก้รธน.-พธม.ยังไม่เคลื่อนขบวน
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในการวันที่ 1-3 เมษายนนี้ ว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน ไว้จำนวน 3 กองร้อย เท่ากับสัปดาห์ที่แล้วที่มีการประชุมลงมติ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เนื่องจากเท่าที่ทราบ กลุ่มที่คัดค้าน คือ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ไม่มีการออกมาชุมนุม เพราะยังไม่เข้าเงื่อนไข ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนอย่าง นปช. อาจมีเดินทางมาบางส่วน ส่วนกลุ่มอื่นๆ ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ก็เตรียมกำลังไว้ยังที่ตั้ง เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่การข่าวก็ยืนยันว่า ไม่มีเหตุป่วนหรือเหตุรุนแรงแต่อย่างใด
พธม.ยันยังไม่เคลื่อนขบวนรอเข้าเงื่อนไข3ข้อ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรม ซึ่งทางกลุ่ม ส.ว. และคณะ ได้ยื่นไปแล้ว และเมื่อมีผู้ดำเนินการแล้ว ทางกลุ่มก็จะไม่ทำซ้ำกัน รวมถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องรอดูว่า จะมีการพิจารณาในสภาอย่างไร และถ้าเข้าเงื่อนไข 3 ข้อ ที่กลุ่มพันธมิตรประกาศในการชุมนุม ก็จะออกมาเคลื่อนไหวทันที
ทั้งนี้ เห็นว่า เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ กับ ส.ว. ที่ต้องพิจารณากันเอง ยืนยัน ยังไม่เคลื่อนขบวน ต้องดูตามสถานการณ์ และยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้
"ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ยังไม่มีมติอะไร เราจะประชุมกันต่อเมื่อเงื่อนไขพันธมิตรประกาศไว้ 3 ข้อ ครบ เราก็ทำ"
ล่าสุด ที่อาคารรัฐสภา บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เริ่มทยอยเดินทางเพื่อตรียมตัวในการประชุมที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 10.30 น. แล้ว โดยวันนี้ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องด่วน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... 3 ฉบับ ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายนนี้ โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้ประสงค์ที่จะร่วมอภิปรายไม่น้อยกว่า 30 คน โดยเน้นอภิปรายความเสียหาย หากมีการแก้ไข ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีผู้ร่วมอภิปราย 60 คน ส่วนกรอบระยะเวลา วิปฝ่ายค้านมองว่า ต้องไม่น้อยกว่ารัฐบาล ซึ่งจะหารือกับวิปรัฐบาลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ว่า จะประท้วงนำไปสู่ความวุ่นวายหรือไม่ โดยเฉพาะมาตรา 68