ลือหึ่ง! แม็คโครประกาศขายกิจการในไทย ทาบบริษัทใหญ่รับช่วงต่อ
โบรกเกอร์ร่อนข่าวบริษัทแม่ของแม็คโครกำลังจะประกาศขายกิจการในไทย พร้อมตั้งที่ปรึกษาการเงินต่างชาติ เตรียมเคาะราคาขาย คาดปิดดีลสิ้นปี 2556 โดยอยู่ระหว่างเร่ทาบบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยซื้อกิจการ
แม้ในวงการธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในไทยขณะนี้ จะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ โดยแต่ละค่ายต่างเร่งงัดกลยุทธ์ออกมาในช่วงที่การแข่งขันกำลังรุนแรงโดยตัวเลขของสมาคมผู้ค้าปลีกไทยระบุว่า มูลค่าตลาดค้าปลีกในปี 2555 สูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเติบโต 12% ในปี 2556 นั้น
แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทแม่ของแม็คโครได้ประกาศขายกิจการแม็คโครในประเทศไทยแล้ว พร้อมตั้งที่ปรึกษาการเงินในต่างประเทศเพื่อเข้ามาดูแลดีลในครั้งนี้ โดยได้มีการติดต่อไปยังผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยหลายรายที่สนใจใน ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลดังกล่าวภายในปี 2556
แหล่งข่าวดังกล่าวยังระบุอีกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีข่าวขายกิจการแม็คโครในประเทศไทย เพราะบริษัทแม่ของแม็คโครเป็นบริษัทลงทุนที่มีการบริหารพอร์ตอยู่ทุกปี หากมองว่าช่วงเวลาไหนธุรกิจในพอร์ตตัวใดสามารถขายและทำกำไรได้สูงสุดก็จะมีการประกาศเป็นเรื่องปกติ เพราะที่จริงแล้วบริษัทแม่ของแม็คโครเน้นลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่อย่างน้ำมัน และไม่ได้เน้นในธุรกิจค้าปลีกมากนัก
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า การขายกิจการแม็คโครในครั้งนี้จะถือเป็น บิ๊กดีล ในอุตสาหกรรมค้าปลีกครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากที่กลุ่มคาร์ฟูร์ ฝรั่งเศส ได้ขายกิจการในไทยให้กับกลุ่มกาสิโนของบิ๊กซี ไปเมื่อปลายปี 2553 โดยขณะนั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 868 ล้านยูโร หรือ 3.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง แม็คโคร เป็นบริษัทลูกของบริษัท เอสเอชวี โฮลดิ้ง (เอ็น.วี.) (SHV Holdings) ของบริษัทเก่าแก่สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย โดยเป็นบริษัทเทรดดิ้งอันดับ 1 ในเนเธอร์แลนด์ และถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเทรดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ ในพอร์ตการลงทุนของเอสเอชวีฯ ประกอบด้วย ธุรกิจขนส่ง, ค้าปลีก, น้ำมัน และธุรกิจบริการด้านการเงิน รวมถึงกิจการแม็คโคร ซึ่งปัจจุบันได้เปิดสาขาในไทยและอเมริกาใต้รวม 6 ประเทศ
โดยก่อนหน้านี้ในปี 2552 เอสเอชวีฯ มีการขายกิจการแม็คโครในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรขายแม็คโครให้กับกลุ่มเมโทร ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ สัญชาติเยอรมัน โดยปีที่แล้วมีการขายต่อให้กับกลุ่มบรุ๊คเกอร์ กรุ๊ป รวมถึงมาเลเซียที่ได้ขายกิจการให้กับเทสโก้ ไปเมื่อต้นปี 2550 โดยได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น เทสโก้ เอ็กซ์ตร้า นอกจากนี้ ยังได้ขายกิจการแม็คโครในอินโดนีเซีย เมื่อปลายปี 2551 ให้กับกลุ่มลอตเต้ ซึ่งในปี 2553 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ลอตเต้ มาร์ท โฮลเซล เป็นต้น
ด้านแหล่งข่าวจากกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าได้รับการติดต่อทาบทามผ่านทางสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทก็สนใจ เนื่องจากแม็คโครเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความน่าสนใจมากและเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงต่อเนื่อง สามารถเข้ามาเชื่อมต่อและต่อยอดกับกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลได้ไม่ยาก แต่ติดปัญหาตรงที่ตอนนี้ราคาตั้งไว้สูงมาก บวกกับมีกลุ่มทุนหลายรายให้ความสนใจและต้องการที่จะเข้าซื้อกิจการ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาในรายละเอียดกันอีกที
นอกจากกลุ่มเซ็นทรัลแล้ว ยังมีกลุ่มทุนรายใหญ่อีกหลายรายให้ความสนใจในบิ๊กดีลครั้งนี้ อาทิ กลุ่มซีพี รวมถึงบิ๊กซี โดยวงในประเมินว่า มูลค่าตัวเลขการซื้อขายกิจการครั้งนี้จะสูงกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะกิจการแม็คโครในไทยถือเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง ซึ่งราคาหุ้นของแม็คโครขณะนี้ถือเป็นนิวไฮ คือ ทำสถิติสูงสุด อีกทั้งขณะนี้ยังเป็นช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมค้าส่งค้าปลีกไทย ดังนั้น เชื่อว่าราคาขายจะสูงมาก
ทางด้าน น.ส.ปริยานุช ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ แม็คโคร กล่าวว่านางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ต่างประเทศไม่ได้มีนโยบายที่จะขายกิจการและยังไม่ได้มีการเจรจากับกลุ่มใด ทั้งนี้ บริษัทมองว่าตลาดไทยยังมีศักยภาพในการลงทุน และให้การสนับสนุนเม็ดเงินในการขยายสาขา โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สาขาสตูล ซึ่งจะเปิดในวันที่ 3 เมษายน และสาขาตราด จะเปิดในวันที่ 15 พฤษภาคม และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ก็ได้เปิดสาขาใหม่ที่มุกดาหาร โดยมีขนาดพื้นที่ 7,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณลงทุนสาขาละ 500-600 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขา 58 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ ปริมณฑล 11 สาขา ต่างจังหวัด 47 สาขา (ไม่รวมสตูลกับตราด)
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นางสุชาดา ยังได้ระบุว่า สนใจที่จะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) แห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต และแก้โจทย์ดีซีเดิมที่วังน้อย ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมีการวางเป้าหมายจะเปิดแม็คโครให้ได้ทุกจังหวัด ตอนนี้ยังเหลืออีก 20 จังหวัด ที่ยังไม่ได้เข้าไป บางจังหวัดมีศักยภาพสามารถเปิดได้มากกว่า 1 สาขา อย่างเชียงใหม่มี 3 สาขา ภูเก็ต 2 สาขา
นอกจากนี้ พบว่า รายได้แม็คโครปี 2555 อยู่ที่ 112,140 ล้านบาท โตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2554 ปิดรายได้ 96,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 3,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากสาขาเดิม และการเปิดสาขาใหม่ระหว่างปีอีก 5 สาขา แม้ว่าช่วงต้นปี 2555 ยังอยู่ในช่วงฟื้นธุรกิจและกำลังซื้อโดยรวมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 2554
โดยปัจจุบันแม็คโครได้เปิดสาขาใน 6 ประเทศ แบ่งเป็นกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ ประกอบด้วย บราซิล เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา เปรู และโคลอมเบีย ส่วนในเอเชียมีเพียงไทยเท่านั้น การลงทุนล่าสุดก็คือ เวียดนาม ในนามบริษัท วีนา สยาม ฟู้ด จำกัด โดยเข้าไปตั้งสำนักงานจำหน่ายสินค้าฟู้ดเซอร์วิสนำเข้าและส่งเข้ามาในไทย
แหล่งที่มา ประชาชาติธุรกิจ