สงสัยซากช้างป่าแก่งกระจานเป็นตัวผู้ไม่ใช่ตัวเมีย

จากกรณีมีชาวบ้านไปพบซากช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี นอนตายขึ้นอืดอยู่บริเวณลำห้วยตะเมาะ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน  จ.เพชรบุรี  ห่างจากอ่างเก็บน้ำหร่าง ประมาณ 3 กิโลเมตร   คาดว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนไรเฟิล โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายจงใจฆ่าแม่ เพื่อเอาลูกช้างไป ตามที่มีการนำเสนอข่าวกันไปแล้วนั้น ล่าสุดวันนี้( 29 มี.ค.) นักวิชาการคนหนึ่ง ออกมาเปิดเผยว่า  จากการตรวจสอบภาพซากช้างที่พบจากหน่วยงานหรือสื่อ พบว่า เมื่อดูจากลักษณะทางกายภาพ ซากช้างดังกล่าวเป็นช้างเพศผู้ ที่ไม่มีงา หรือช้างสีดอ ไม่ใช่ช้างเพศเมีย

ทั้งนี้ ปกติแล้ว การจับลูกช้างป่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโดยธรรมชาติของช้างป่านั้น จะอยู่กันเป็นฝูง หรือกลุ่ม โดยเฉพาะฝูงช้างที่มีลูกช้างยังเล็ก ก็จะช่วยกันดูแล ช่วยเหลือและปกป้องลูกช้างเป็นอย่างดี เพราะแม่ช้างจะพัก เพื่อฟื้นสภาพร่างกาย  การที่แม่ช้างกับลูกช้างจะแยกออกห่างจากฝูงนั้นเป็นไปได้ยาก  ดังนั้นเมื่อพบซากช้างเพียงตัวเดียว แล้วเป็นการฆ่าแม่เพื่อเอาลูกจึงเป็นไปได้ยาก 

สำหรับเรื่องที่พบลักษณะเป็นสีขาวบนซากช้าง แล้วบอกว่าเป็นน้ำนม  แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่น้ำนม แต่เป็นเชื้อรา ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อช้างตายระยะหนึ่ง และเริ่มเน่า   นอกจากนี้ เวลาช้างเพศเมียมีลูก นมก็จะตั้งเต้า ขยายขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติ เพราะลูกช้างดูดนมและดึงออกมา  คล้ายกับแมว หรือสุนัข แต่นมของช้างจะอยู่บริเวณ 2 ขาด้านหน้า  ส่วนนมของช้างเพศผู้นั้น จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก เห็นเพียงหัวนมเท่านั้น

จุดที่สำคัญอีกประการที่บอกว่าเป็นซากช้างตัวผู้ก็คือ อวัยวะเพศของช้างที่พบ จากการที่ได้ตรวจสอบรูปภาพ ทำให้คิดได้ว่าเป็นช้างเพศผู้แน่นอน เนื่องจากอวัยวะเพศมีลักษณะเป็นถุงและมีปลายแหลม  โดยถุงหุ้มอวัยวะเพศของตัวผู้อยู่  ทำให้คนสับสน เพราะอวัยวะเพศหด และไม่โผล่ออกมา

ซึ่งโดยปกติอวัยวะเพศของช้างตัวผู้จะโผล่ออกมาก็ต่อเมื่อจะใช้งาน เช่น ปัสสาวะ หรือผสมพันธุ์  ทั้งนี้ เมื่อช้างตัวผู้ตาย อวัยวะเพศก็จะโผล่ออกมาบ้างไม่โผล่บ้าง แต่หากเป็นอวัยวะของช้างเพศเมียจะมีลักษณะป้านตรงลงมา และอยู่ใกล้กับรูทวาร แตกต่างกับของตัวผู้ที่อวัยวะเพศอยู่ห่างจากรูทวารพอสมควร ยกตัวอย่าง จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ดูเพศจากขี้ช้าง ถ้าขี้กับปัสสาวะอยู่ห่างกัน แสดงว่าเป็นตัวผู้ แต่หากอยู่ใกล้กัน แสดงว่าเป็นตัวเมีย

ขณะที่ นายดุลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักอนุรักษ์สัตว์ กล่าวว่า  ตอนแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ส่งรูปภาพมาให้ดู ตนอยู่กับช้างมาตั้งแต่เด็กจนโต เป็นเวลากว่า 50 ปี มองก็รู้แล้วว่าเป็นช้างตัวผู้ ไม่ใช่ตัวเมีย โดยดูจากอวัยวะเพศและนมของซากช้างที่พบ  ซึ่งในภาพแสดงอวัยวะเพศของช้างตัวผู้ซ่อนอยู่ข้างในกระพุ้งสำหรับเก็บไว้อย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นของช้างตัวเมียจะมีลักษณะเหมือนรูปหัวใจย้อยลงมา  ส่วนสีขาวที่อ้างว่าเป็นน้ำนม ความจริงเป็นน้ำเหลือง ถ้าไปบีบน้ำก็จะไหลออกมา เพราะช้างตายมานานแล้วจนขึ้นอืด สำหรับเรื่องลูกช้าง ในเมื่อซากช้างที่พบเป็นตัวผู้ แล้วจะออกลูกได้อย่างไร