พงศพัศรุดเยี่ยมแม่ค้าตลาดบางแคเหยื่อแก๊งทวงหนี้โหดรุมตื้บ-มอบเงินช่วยเหลือ

จากกรณีแก๊งทวงหนี้โหดรุมสกรัมนางสุภาพร ทองแตง อายุ 56 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 36 ซ.เพชรเกษม 71 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ แม่ค้าขนมเบื้องหน้าตลาดบางแค จนได้รับบาดเจ็บแถมยังทำลายข้าวของเสียหาย เหตุเกิดตอนค่ำวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะนางสุภาพรไปกู้เงินนอกระบบมา 7 พันบาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 300 บาท พอขาดส่งดอก 1 วัน เลยโดนตามมาทำร้าย 


 ซึ่งขณะเกิดเหตุพ่อค้าแม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์สุดทนรุดเข้าช่วยจนเกิดตะลุมบอนกัน กระทั่งนายดนุสรณ์ ชาวอุบล อายุ 33 ปี

หนึ่งในแก๊งทวงหนี้ถูกแทง 4 แผล อาการสาหัสถูกหามส่งร.พ.เช่นกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมนายรุ่งโรจน์ หรือโรจน์ อัมพุธ อายุ 23 ปี คนปล่อยเงินกู้ พร้อมพวกอีก 4 คน ขณะเดินทางมาเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนายดนุสรณ์ ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งทั้งหมดยังให้การภาคเสธ ตามที่เสนอไปนั้น 

 ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 มี.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตรองผบ.ตร.

พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 และ ร.ต.ต.อิทธิพันธ์ วัฒนาอมร พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เจ้าของคดี รุดไปเยี่ยมน.ส.สุภาพรที่บ้านพักในซอยวัดนิมมานรดี แขวงบางแค เขตภาษีเจริญ 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนางสุภาพรเห็นหน้าพล.ต.อ.พงศพัศก็รีบโผเข้าไปกอดด้วยความดีใจ

ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้พล.ต.อ.พงศพัศยังได้นำเงินสดจำนวน 7 พันบาท
ใส่ซองมอบให้นางสุภาพรเพื่อเป็นเงินทุนไปซื้อหาอุปกรณ์ทำขนมเบื้องชุดใหม่แทนชุดเก่าที่ได้รับความเสียหายจากการถูกแก๊งเงินกู้ทำร้ายอีกด้วย 

พงศพัศรุดเยี่ยมแม่ค้าตลาดบางแคเหยื่อแก๊งทวงหนี้โหดรุมตื้บ-มอบเงินช่วยเหลือ

 นางสุภาพรกล่าวว่า ดีใจมากที่พล.ต.อ.พงศพัศมาเยี่ยมและดูแลความปลอดภัยของประชาชน
 
ตนอยากให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวหลังจากนี้ เพราะกลัวถูกทำร้ายในภายหลัง ตนยอมรับว่าเคยคิดทำเรื่องกู้ธนาคารออมสิน แต่ติดที่ระเบียบเยอะต้องหาคนค้ำประกัน จึงหันมากู้เงินรายวันซึ่งสะดวกกว่า และที่สำคัญพวกเงินกู้นอกระบบจะเดินเข้ามาหาลูกค้าเอง โดยเฉพาะนายรุ่งโรจน์ หัวหน้าแก๊ง เคยนำนามบัตรมาวางให้ถึงที่แผง ตนจึงตัดสินใจขอกู้ในวงเงิน 7 พันบาท และขอส่งทั้งเงินต้นและดอกเป็นรายวัน วันละ 300 บาท นาน 1 เดือน แต่ก่อนเกิดเหตุตนขาดส่งแค่ 4 วัน เพราะขายของไม่ได้ก็ถูกรุมทำร้าย 

 พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ปัญหาแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ในปัจจุบันถือเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
 
โดยเฉพาะชาวบ้านรากหญ้า เมื่อเกิดกรณีลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกัน ทำให้สังคมยอมรับไม่ได้ คดีนี้ผู้ก่อเหตุต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้เสียหาย ตนได้ประสานให้พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 ช่วยดำเนินการแล้ว โดยการจะจัดสายตรวจไปตรวจตราบริเวณตลาดบางแคให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ตนกลับเข้ามารับราชการตำรวจ ก็จะติดตามความคืบหน้าให้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ จะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน โดยประสานกับทางกรุงเทพมหานครเรื่องกองทุนชุมชนเมือง ที่จะนำเงินมาปล่อยกู้โดยคิดดอกเบี้ยราคาถูก ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องรับภาระ จากการคิดดอกเบี้ยราคาแพงของโต๊ะเงินกู้นอกระบบ

 ผมต้องขอแสดงความยินดีกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่กกต.มีมติรับรองให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดูแลประชาชนเมืองหลวงต่อไป ส่วนผมก็จะนำเอกสารไปยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งเดิมกับทางกตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกลับมารับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่อีกครั้ง โดยในระหว่างที่รอการพิจารณาและรอรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ผมก็จะทำหน้าที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนไปเรื่อยๆ ก่อน เพื่อเตรียมข้อมูลและลงมือแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีเมื่อกลับไปรับราชการ ซึ่งตอนนี้คิดเอาไว้แล้วว่าจะทำอะไรบ้าง เนื่องจากในช่วงที่เป็นผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีโอกาสลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาต่างๆ จากชาวบ้านมากมายŽ พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว

 พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่ตนคิดจะทำหลังจากได้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่ง คือ ต้องทำตำรวจชุมชนทุกโรงพักให้เข้มแข็ง
 
ให้กำลังพลเหล่านี้เดินหน้ารุกไปหาชาวบ้านถึงในชุมชน ไปรับฟังความคิดเห็น รับฟังปัญหา ไปดำเนินการสร้างกระบวนการเชื่อมโยงกันระหว่างประชาชนกับข้าราชการตำรวจให้ดีกว่านี้ ซึ่งเราจะสามารถนำข้อร้องเรียนทั้งหมด มาพิจารณาและหาทางออกให้กับชาวบ้านได้อย่างทันท่วงที 

 โดยเฉพาะเรื่องแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ที่วันนี้ได้ฟังปัญหาจากปากผู้เสียหายแล้วว่า

เคยคิดจะกู้เงินในระบบแต่ติดอุปสรรคมากมายจนต้องหันหน้าไปพึ่งพานายทุนหน้าเลือด ต่อจากนี้จะต้องทำให้ชาวบ้านเข้าหาเงินทุนที่ทางหน่วยราชการจัดมาให้กู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น อาทิ กองทุนชุมชนเมือง ที่สามารถกู้ได้โดยมีดอกเบี้ยราคาถูก และฝากไปถึงพวกโต๊ะเงินกู้นอกระบบด้วยว่า การใช้ความรุนแรงจะสร้างความเสื่อมเสียต่อสังคมขอให้ท่านหยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที

 ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดี ร.ต.ต.อิทธิพันธ์กล่าวว่า ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมดแล้ว 6 คน มีผู้ใหญ่ 3 คน และเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี อีก 3 คน

ในส่วนของผู้ใหญ่คือ นายรุ่งโรจน์ และนายชลวิทย์ เที่ยงแท้ อายุ 21 ปี แจ้งข้อหาและนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี โดยตนแนบท้ายขอคัดค้านการให้ประกันตัวไปด้วย สำหรับผู้ใหญ่อีก 1 คน คือ นายดนุสรณ์ ชาวอุบล อายุ 23 ปี ซึ่งถูกแทงได้รับบาดเจ็บยังนอนพักที่ ร.พ.ราษฎร์พิพัฒน์ ก็ได้อายัดตัวไว้รอหายดีก่อนคุมตัวมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการเช่นเดียวกัน ขณะที่เยาวชนอีก 3 คน จะคุมตัวส่งศาลให้สถานพินิจรับตัวไปดูแล ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ซึ่งโทษหนักสุดคือจำคุกไม่เกิน 7 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์