แพทย์ชี้“พ่อคูณ”ท่อปัสสาวะติดเชื้อควบคุมยาก

จากกรณีอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ที่เข้ารักษาภาวะปอดอักเสบอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.2555 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องยาวนานกว่า 117 วันแล้ว และที่ผ่านมาอาการโดยรวม มีทั้งดีขึ้นและทรุดลงสลับไปมาหลายรอบ จนกระทั่งเมื่อช่วงคืนวันที่ 20 มี.ค. หลวงพ่อคูณ มีอาการทรุดลงอีกรอบ หลังพบการติดเชื้อท่อทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากต้องใส่สายสวนปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ แพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะ พร้อมกับเลื่อนกำหนดเดินทางกลับวัดบ้านไร่อออกไปอีกสักระยะ พร้อมทั้งต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเป็นพิเศษ

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มี.ค. นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา
 
แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการของหลวงพ่อเริ่มดีขึ้นบ้าง ไม่มีไข้ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว รู้สึกตัวดี พูดคุยดี เริ่มมีเสียงด่าเวลาถูกฉีดยา แต่ยังมีเสมหะอยู่มาก ต้องดูดออกวันละ 2 รอบ และช่วงนี้ต้องให้ยาปฏิชีวนะโดยฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ บริเวณช่วงขาทั้ง 2 ข้างสลับไปมา โดยให้ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว ซึ่งผลการตอบสนองต่อยาค่อนข้างดี แต่ยังมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ จึงต้องให้ยาต่อเนื่องจนครบ 7 วัน ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ขยายไปอีก 7 วัน แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นการฉันยาแทนการฉีด นอกจากนี้ยังต้องให้ยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม และล้างกระเพาะปัสสาวะทุกวัน

นพ.พินิศจัย  กล่าวต่อว่า ส่วนการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้
 
เพราะหลวงพ่อไม่สามารถปัสสาวะเองได้ ต้องใส่สายสวนอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบขึ้นได้ ขณะที่ วิธีการควบคุมป้องกันการติดเชื้อท่อปัสสาวะ คงต้องดูเรื่องการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะตามกำหนดระยะเวลา คือ ประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง การล้างกระเพาะปัสสาวะทุกวันซึ่งทำอยู่แล้ว อีกอย่างต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของหลวงพ่อเอง หากกระเพาะปัสสาวะเกิดการบีบตัว ประกอบกับหลวงพ่อมีภาวะเบาหวานด้วย อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้อีกครั้ง และต้องยอมรับว่าการควบคุมยาก และไม่สามารถควบคุมได้ 100% อย่างไรก็ตาม การที่หลวงพ่อขยับร่างกาย ทำกายภาพบำบัดบ่อย ๆ น่าจะช่วยได้ แต่ระยะนี้หลวงพ่อยังลุกลงจากเตียงไม่ได้ และต้องทำกายภาพบำบัด ยกแขนยกขาอยู่บนเตียงคนไข้เท่านั้น.