ตำรวจ-จุฬาฯล้อมคอก ตั้งด่านเข้ม3ทุ่ม-ตี2 ป้องชิงทรัพย์นิสิต

นครบาลจับมือจุฬาฯล้อมคอกนิสิต โดนรุมยำฉกมือถือ รอง ผบช.น.สั่งฝ่ายสืบสวนตรวจเข้ม ตั้งด่านช่วง 3 ทุ่มถึงตี 2 เผยมีรูปคนร้าย-จยย.ก่อเหตุแล้ว เร่งแกะรอยจับกุม อธิการบดีออก 6 มาตรการดูแล

กรณีที่นิสิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ ข้อความลงในเฟซบุ๊กของสถาบันว่ามีนิสิตตกเป็นเหยื่อของคนร้ายขณะกำลังนั่งรอ รถประจำทางอยู่ที่ป้ายริม ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ช่วงกลางคืนอยู่เป็นประจำ โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์หลายคัน สวมหมวกนิรภัยเต็มใบเพื่ออำพรางใบหน้า เข้ามาประกบเหยื่อแล้วรุมทำร้ายก่อนชิงทรัพย์สินจะเน้นเฉพาะโทรศัพท์สมาร์ท โฟน โดยคนร้ายจะลงมือช่วงหลัง 22.00 น. เหยื่อรายล่าสุดคือนายกุลชาติ อุทัยวิชากุล อายุ 21 ปี นิสิตคณะแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ถูกทำร้ายเมื่อกลางดึกวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งตำรวจ สน.ปทุมวัน ยอมรับว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริงและอยู่ระหว่างติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มีนาคม พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน (รอง ผกก.สส.) สน.ปทุมวัน ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 (กก.สส.บก.น.6) รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร จุฬาลงกรณ์ฯ และนายกุลชาติ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนจากจุฬาฯ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

พล.ต.ต.มานิตให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือมาตรการป้องกัน โดยสั่งฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ออกตรวจตรากวดขันมากยิ่งขึ้น และพยายามติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดี ขณะนี้ได้ภาพของคนร้ายและรถจักรยานยนต์แล้ว แต่ยังขอไม่เปิดเผย

"นอก จากนี้ ยังตั้งจุดตรวจค้นเคลื่อนที่ ตั้งแต่ถนนพญาไท ถนนอังรีดูนังต์ และช่วงสามย่านถึงจุฬาซอย 12 ในช่วงเวลา 21.00-02.00 น. เพื่อให้ประชาชนหรือนิสิตมีความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข้อความลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่ามีคดีลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางรายถูกทำร้ายด้วยเครื่องชอร์ตไฟฟ้า ได้ตรวจสอบไปยัง สน.ปทุมวัน ปรากฏว่า ยังไม่พบว่ามีผู้มาแจ้งความ หากว่ามีผู้เสียหายถูกทำร้ายให้มาแจ้งความได้ที่ สน.ปทุมวัน เพื่อขยายผลติดตามคนร้าย" พล.ต.ต.มานิตกล่าว

รศ.ดร.บัญชากล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) มหาวิทยาลัยให้ออกตรวจพื้นที่ร่วมกับตำรวจอย่างเข้มงวด โดยใช้รถจักรยานยนต์และรถกระบะของมหาวิทยาลัยตระเวนทั้งในและนอกพื้นที่ มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ จะเตรียมปรับบริเวณจุดเสี่ยงด้วยการเพิ่มแสงสว่างและตัดต้นไม้ที่บดบังแสงไฟ ออกไป รวมถึงห้ามนิสิตติวหนังสือภายในรั้วมหาวิทยาลัยเกินเที่ยงคืน หากนิสิตคนใดมีความประสงค์ต้องการกลับบ้านให้แจ้งให้ รปภ.รับทราบ เพื่อจัดรถรับส่งจากมหาวิทยาลัยไปยังสถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียงหรือป้ายรถประจำ ทางที่มีแสงสว่างเพียงพอ

"อีกกระทั่งได้กล่าวเตือนให้นิสิตไม่ควร เล่นมือถือขณะเดินทางกลับบ้านเพราะจะเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายได้ง่าย" รศ.ดร.บัญชากล่าว และว่า ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะติดตั้งกล้องซีซีทีวีรอบ พื้นที่มหาวิทยาลัยและบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้การดูแลรวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจกับนิสิต

นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้จัด 6 มาตรการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย คือ
 
1.เพิ่มจำนวนรถสายตรวจ บนถนนนอกมหาวิทยาลัยในช่วงกลางคืน

2.นำรถไซเรนของมหาวิทยาลัยไปจอดตามจุดสำคัญๆ หรือจุดเสี่ยง

3.ประสานตำรวจในพื้นที่ ตั้งด่านตรวจเพื่อดูแลความปลอดภัย

4. ติดหลอดไฟ เพื่อให้แสงสว่างเพิ่มมากขึ้น

5.ติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดสำคัญต่างๆ

6.จัดโครงการพาน้องกลับบ้าน โดยให้มี รปภ.คอยรับนิสิตไปส่งตามจุดต่างๆ และให้ฝ่ายกิจการนิสิตจัดรถรับส่งนิสิต

ทั้งนี้ ทั้งหมดเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยระยะสั้น ส่วนมาตรการระยะยาว จัดตั้งคณะกรรมการดูแลภาวะวิกฤต อาทิ การสร้างความตระหนักถึงการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ โดยจากสถิติมักพบเหตุร้ายเกิดขึ้นในระหว่างโทรศัพท์ จึงต้องเตือนให้ระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั้งภายในภายนอกมหาวิทยาลัย รวมถึงเพิ่มแสงสว่างในทุกจุด

ด้านนางจงกลลักษม์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของจุฬาลงกรณ์ฯปกติแล้วทางจุฬาฯจะดำเนินการต่างๆ เอง ส่วนทางเขตพร้อมช่วยแก้ปัญหาร่วมกันหากทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแจ้งเรื่องเข้ามา เช่น ไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมประสานกับการไฟฟ้านครหลวงให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเรื่องเข้ามา ทั้งนี้ ตนมอบหมายให้ฝ่ายโยธาสำรวจพื้นที่ในเขตปทุมวัน ว่ามีการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างครอบคลุมหรือไม่ เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ทั่วถึง